วันนี้ (29 ส.ค.2560) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยอมรับความบกพร่องที่ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมเชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่คนธรรมดา เพราะมีบารมีและศักยภาพที่จะสามารถหลบหนีได้ด้วยตัวเอง โดยไม่มีการดีลกับคสช.อย่างแน่นอน
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ระบุถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรี หลบหนีและไม่เดินทางรับฟังคำตัดสินของศาลคดีจำนำข้าว 25 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรีได้เร่งหน่วยงานความมั่นคงให้ติดตามเรื่องนี้ โดยเฉพาะกองกำลังตามแนวชายแดนให้ตรวจสอบเส้นทาง ช่วงเวลาและวิธีการเดินทาง ซึ่งถือว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นการหลบหนีออกนอกประเทศ แต่จากการตรวจสอบทั้ง 4 กองทัพภาค ไม่พบข้อมูล หลักฐานปรากฎการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยไม่ต้องการให้พาดพิงเส้นทางการหลบหนีว่าออกไปทางชายแดนฝั่งใด เพราะจะกระทบประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งทางสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาก็ยืนยันแล้วว่ากัมพูชาไม่พบข้อมูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีมาทางกัมพูชา
พร้อมยืนยัน คสช.ไม่มีการเอื้อประโยชน์ หรือ ดีล เพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีออกนอกประเทศ เพราะ คสช.ไม่ได้ประโยชน์ แต่กลับถูกสังคมตำหนิอยู่ในขณะนี้ และขอยอมรับในความบกพร่องของตนเอง ซึ่งในวันนี้ไม่ได้เป็นการแก้ตัว แต่ต้องการชี้แจง พร้อมวิเคราะห์ถึงการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า เนื่องจากเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี และไม่ใช่บุคคลธรรมดา แต่เป็นผู้มีบารมี รวมทั้งมีผู้สนับสนุน เครือข่าย ที่เป็นเจ้าหน้าที่และมีความรู้ความชำนาญในการหาวิธีการหลบหนีได้ โดยใช้เทคโนโลยีและรูปแบบการดำเนินการทางลับ รวมทั้งยังมีเครื่องบินส่วนตัว ซึ่ง คสช.ก็ไม่คาดคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะหลบหนีและทิ้งเงินประกัน 30 ล้านบาท เพราะยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้หลบหนี และไม่ได้สั่งการให้กองกำลังชายแดนจับตาคดีรับจำนำข้าวเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมา คสช.ไม่ได้ควบคุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเคยถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ จึงถอนกำลังออกมาจากการติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ และหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนี ออกนอกประเทศไปแล้วก็ยังมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมการไว้ให้ ดังนั้นจึงเชื่อว่า การหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า และรอเวลา โอกาสที่เหมาะสมในการหลบหนี โดยไม่สามารถตอบแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงเหตุผลในการหลบหนีได้ ซึ่งขณะนี้ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการติดตามออกหมายจับตามขั้นตอนกฎหมาย
ขณะเดียวกันหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกนอกประเทศได้แล้วและมีการพูดหรือเคลื่อนไหว ก็ยากที่จะดำเนินการตามกฎหมายได้ และไม่ควรวิจารณ์พรรคเพื่อไทยล่วงหน้าว่าจะอ่อนแอ เพราะในอนาคตพรรคเพื่อไทยอาจจะมีระบบการทำงานที่เข้มแข็งก็ได้ รวมทั้งไม่อยากให้ขยายประเด็นการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่