หลังนายกรัฐมนตรี ระบุถึงคุณสมบัติผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คนใหม่ ต้องเป็นข้าราชการที่ดีเหมือนคนเดิม ก็เริ่มมีกระแสข่าวถึงตัวบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่ 1 ในนั้นคือ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 แต่ล่าสุดเจ้าตัวปฏิเสธแล้ว ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายยืนยันว่า การตั้ง ผอ.พศ.คนใหม่ ไม่จำเป็นต้องปรึกษามหาเถรสมาคม (มส.) พร้อมย้ำว่า การโยก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ได้เกิดจากแรงกดดันของพระชั้นผู้ใหญ่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าคณะสงฆ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโยกย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ และ พ.ต.ท.พงศ์พร ก็ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เกินเลย ที่ผ่านมาถือว่าทำงานมาได้ดี ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้กระอักกระอ่วนใจกับการโยกย้ายครั้งนี้ ขออย่าทำให้รัฐบาลและพระผิดใจกันเลย อีกหน่อยสื่อมวลชนอาจจะเซอร์ไพรส์ หรือ แปลกใจ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า จะมีนายตำรวจมาเป็น ผู้อำนวยการ พศ.คนใหม่ นายวิษณุ ระบุว่า เห็นจากข่าวและไม่รู้ว่า ข่าวนี้มาจากไหนแต่การแต่งตั้ง ผอ.พศ.จะต้องเริ่มที่นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล พศ. ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเสนอชื่อ ส่วนการตรวจสอบการทุจริตเงินอุดหนุนวัด ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จะทำหน้าที่ต่อไป โดยมี พศ.ร่วมในการตรวจสอบ ส่วนคุณสมบัติของ ผอ.พศ.คนใหม่นั้น
นายวิษณุ ระบุว่า ไม่มีอะไรพิเศษ พิจารณาจากความเหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ๆ ซึ่งตำแหน่ง ผอ.พศ.กฎหมายกำหนดว่าต้องสนองงานพระพุทธศาสนา โดยมี มส.เป็นผู้ดำเนินการ จึงต้องหาคนที่สนองงานพุทธศาสนาได้ และไม่ต้องปรึกษา มส.เพื่อให้พิจารณารายชื่อก่อน
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.วิระชัย หรือสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 เจ้าของคดียูฟัน ที่เพิ่งจะได้รับการพิจารณาให้ขยับขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ในข่ายที่กำลังมีการพิจารณาให้เข้ามารับตำแหน่ง ผอ.พศ.คนใหม่ ด้วยภาพลักษณ์นายตำรวจประนีประนอม แต่เจ้าตัวออกมาปฏิเสธว่า แม้จะถูกทาบทามก็คงปฏิเสธ เพราะมีความเชี่ยวชาญในการเป็นตำรวจ และเชื่อว่าบทบาทนี้ น่าจะทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้มากกว่า
นอกจากนั้นยังมีกระแสข่าวว่า คนจากดีเอสไอ คือนายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ ซึ่งเคยร่วมทำคดีสหกรณ์คลองจั่น และกรณีวัดพระธรรมกาย กับ พ.ต.ท.พงศ์พร อาจเป็นอีกชื่อที่ได้รับการพิจารณาให้เข้ามานั่งในตำแหน่งนี้ แต่คาดการณ์ว่า ใครจะรับหน้าที่นี้ การตัดสินใจสุดท้ายจะอยู่ที่นายกรัฐมนตรี