วันนี้(1 ก.ย.2560) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ระบุถึงร่างพระราชบัญญัติการโอนกรรมสิทธิที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร ต.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของ นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดาว่า การออกกฎหมายนี้ จะไม่มีผลย้อนหลังกับคดีของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ศาลสั่งพิพากษาจำคุก 2 ปีไปแล้ว เพราะว่าความผิดที่กระทำได้มีความผิดสำเร็จไปแล้ว
นายมีชัย ระบุด้วยว่ายังไม่เห็นรายละเอียดของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว เพียงบอกว่าให้ถามคนที่จัดทำร่างนี้ขึ้นมาว่าคิดอย่างไร แต่เชื่อว่าการยกร่างขึ้นมาต้องมีการคิดอย่างรอบคอบ และปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าการรับโอนกรรมสิทธิ์แบบสุจริต หรือไม่สุจริตจะแยกออกจากกันอย่างไร เนื่องจากไม่ทราบในรายละเอียดและเกรงว่าจะกระทบได้ แต่มีสภาพตามกฏหมายว่าหากเป็นที่ธรณีสงฆ์ไม่สามารถที่จะโอนได้ เว้นแต่การออกกฎหมายรองรับ
ส่วนบรรทัดฐานที่อาจจะเกิดขึ้นหากว่ามีการออกกฎหมายนี้ ประธาน กรธ.ระบุว่า ขึ้นอยู่กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะผู้ออกกฎหมายว่าจะมีรายละเอียดหรือเงื่อนไขอะไร หรือ สนช.จะเห็นด้วยกับการออกกฎหมายหรือไม่ หรือหากเห็นด้วยจะมีเงื่อนไขใด
สอดคล้องกับนายสมชาย แสวงการ 1 ในสนช. ที่ยืนยันว่า หากเนื้อหาเป็นอย่างที่ถูกวิจารณ์ไม่น่าจะได้รับความเห็นชอบจาก สนช. เพราะถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้อง
นายสมชาย ยังย้ำว่า หากปล่อยให้มีกฎหมายลักษณะนี้ จะส่งผลในอนาคต เกิดพฤติกรรมเลียนแบบเช่นไปออกโฉนดทับที่ป่า หรือ ที่สาธารณะ แล้วให้รัฐออกกฎหมายนิรโทษกรรมภายหลังเพื่อทำให้สิ่งที่ผิด กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้อง