วันนี้ (7 ก.ย.2560) ศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นที่กำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ก่อนมีคำพิพากษา สั่งให้ ขสมก.ระงับการใช้สิทธิเรียกร้องเงินประกัน จากธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันของบริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป กว่า 338 ล้านบาท จากกรณีบริษัทเบสท์ริน ถูกกล่าวหาผิดสัญญาส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศ 390 คัน ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า ยังไม่อาจรับฟังได้ว่า ขสมก.ทำผิดสัญญา และเมื่อ ขสมก.บอกเลิกสัญญากับบริษัทเบสท์รินแล้ว ย่อมมีสิทธิริบหลักประกันตามสัญญา
นายวรพจน์ วณิชชานนท์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ จากบริษัทเบสท์ริน กล่าวว่า ยอมรับในคำสั่งศาล จากนี้ต้องรอผลในคดีหลัก หากบริษัทชนะ นอกจาก ขสมก.ต้องรับรถของบริษัท และยังต้องคืนเงินประกันที่ยึดไป รวมถึงต้องชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งบริษัทมีแนวคิดจะยื่นฟ้อง เรียกค่าเสียหายจาก ขสมก. และธนาคาร
ขณะที่นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานบอร์ด ขสมก. กล่าวว่า ขสมก.จะรอดูว่าบริษัทเบสท์รินจะมีดำเนินการต่อไป แต่มั่นใจว่า ขสมก.ดำเนินการมาถูกทางแล้ว ส่วนขั้นตอนในการจัดหารถเมล์เอ็นจีวีใหม่ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่า จะสามารถเปิดประมูลแบบ อิเล็กทรอนิกส์ ได้ภายใน ต.ค.นี้