พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ระบุว่า อาวุธสงคราม ที่ยึดได้หลายครั้งใน จ.สระแก้ว และ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งได้รับการยืนยันจากหน่วยข่าวว่ามีที่มาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีชื่อของ "เฮียเขมร" เข้าไปพัวพัน โดยตำรวจตรวจสอบการสื่อสาร พบว่า มีการใช้พื้นที่ฝั่งตรงข้ามบ้านโคกสะแบง อ.อรัญประเทศ เป็นจุดสั่งการโดยมี 2 คนไทยเป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ทำหน้าที่ประสานงานหลัก
เครือข่ายดังกล่าวมีทั้งคนไทยและกัมพูชาหลายสิบคนมีส่วนร่วม โดยมีนายมุ่น นายเอ ชาวจังหวัดสระแก้ว และนายดี ชาวปราจีนบุรี ทำหน้าที่ประสานงานขนอาวุธสงครามจากกัมพูชา ทางแนวตะเข็บชายแดนภาคตะวันออกเข้าไปยังพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ส่งให้ชนกลุ่มน้อยในฝั่งเมียนมา พร้อมกับนำยาบ้าจากฝั่งเมียนมาผ่านไทยออกไปยังกัมพูชา ก่อนจะวกกลับมาจำหน่ายในไทยมีนางวรรณ และนางอ้วน เปิดบัญชีไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง ใน จ.แม่ฮ่องสอน ก่อนโอนเงินกลับมายังนายซอและและนายเตียว ชาวกัมพูชา ซึ่งเปิดร้านค้าบังหน้าอยู่ที่ตลาดโรงเกลือ โอนต่อไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน วันละ 6-7 ล้านบาท
การจับกุมนายชล ชาวกัมพูชา และพวกอีก 4 คน ขณะใช้รถตู้ขนเครื่องยิงลูกระเบิด 3 กระบอก ลูกระเบิดอีก 3 ลูก พร้อมชนวนจุดระเบิด ในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว เมื่อ 2 เดือนก่อน โดยปลายทาง คือ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน มีนายอู๊ด เป็นผู้รับช่วงต่อ และหากไม่ถูกจับเสียก่อนอาวุธล๊อตนี้จะถูกส่งให้กับกองกำลังในรัฐฉาน ผลการสอบสวนล่าสุดพบว่าพัวพันไปถึงกลุ่มของเฮียเขมร ที่ใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวตะเข็บชายแดนตั้งแต่ อ.อรัญประเทศ ไปจนถึง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นจุดลำเลียงอาวุธ และยาเสพติดเข้าไทยมาแล้วหลายครั้ง
เครือข่ายเฮียเขมร ได้ชื่อว่าเป็นองค์กรนอกกฎหมาย ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ไทยแล้ว ถือเป็นกลุ่มอาชญากรลำดับแรกๆ ที่ไทยและกัมพูชา กำลังประสานความร่วมมือกันในการกวาดล้างปราบปราม