วานนี้ (14 ก.ย.2560) ในการปาถกฐาพิเศษเรื่อง "การปฏิรูประบบกฎหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน" นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุว่าในการดำเนินการปฏิรูปประเทศต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ให้ประเทศสงบ สามัคคีปรองดอง สังคมเกิดความเป็นธรรม และประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี ย้ำว่าสุดท้ายทุกข้อเสนอในการปฏิรูปจะไม่เสียเปล่า และจะผ่านความเห็นชอบจาก ครม.และเชื่อมั่นข้อเสนอร้อยละ 90 จะผ่านความเห็นชอบและเดินหน้าสู่การดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
"ผมบอกแล้วว่าไม่เสียเปล่า และโดยมากร้อยละ 90 แนวโน้ม ครม.จะเดินตามนั้น แต่ที่มกระแสสังคมที่มีความเห็นแตกกันอยู่ครม.ก็จะเลือกพิจารณา"
ในขณะเดียวกัน จากผลการศึกษาวิจัยข้อเสนอการปฏิรูปประเทศ โดยคณะอนุกรรมการฯของ ป.ย.ป. ที่จัดทำขึ้นนั้น มีสาระสำคัญส่วนหนึ่งสะท้อนถึงการเดินหน้าปฏิรูป โดยเฉพาะการปฏิรูปการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและเป็นระบบมากขึ้น การปฏิรูปความมั่นคงทางอาหาร ที่เน้นให้ยุติการใช้สารเคมีทางการเกษตร ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ที่เดินมาถูกทางแล้ว แม้จะยังมีความเห็นต่างเรื่องการปรับโครงสร้างการสอบสวนและการฟ้องคดีให้เป็นกระบวนการเดียวกัน
ขณะที่เวทีเสวนา 3 หัวข้อ คือการปฏิรูปสิ่งแวดล้อม การปฏิรูปการศึกษา และการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมหรือการปฏิรูปตำรวจนั้น นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร ยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลงที่เน้นการกระจายอำนาจ ทั้งโครงสร้างและการบริหารงานบุคคล ขณะที่ ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา ยืนยันถึงการเดินหน้าจัดระบบการศึกษา ที่เน้นการบริหารจัดการตนเองให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความเหมาะสม