วันนี้ (18 ก.ย.2560) นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ในต้นสัปดาห์หน้า กรมป่าไม้ และชุดพยัคฆ์ไพร เตรียมจะลงไปตรวจสอบกรณีหุบเขาไฮโซ บุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่เขตป่าแม่ท่าช้าง และป่าแม่ขนิน ท้องที่หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 10 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ที่ถูกร้องเรียนว่ามีนายทุนแบ่งเขตที่ดินขายให้กับชาวต่างชาติ เพื่อสร้างบ้านพักบริเวณหุบเขาด้านล่างติดกับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เบื้องต้นพบตรวจพบการก่อสร้างรีสอร์ทบ้านพักตากอากาศนับ 100 หลัง
ขณะนี้ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชุดพยัคฆ์ไพร ตรวจดูรายละเอียดพบมีการบุกรุกพื้นที่ ซึ่งกรณีที่ชาวต่างชาติอ้างว่าถูกหลอกให้ขายที่ดินในเขตหุบเขาไฮโซ เป็นการร่วมมือกันหรือขาดเจตนาในการกระทำโดยจะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
4 ปีทวงคืนป่ากว่า 6 แสนไร่
นายชลธิศ ยืนยันว่าทั้งกรณีหุบเขาไฮโซ จ.เชียงใหม่ และรีสอร์ทบนภูทับเบิก และเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ที่กรมป่าไม้เข้าตรวจสอบ และตั้งเป้าทวงคืนผืนป่าจากการบุกรุกของกลุ่มนายทุน จะไม่มีสองมาตรฐาน โดยขณะนี้กรมป่าไม้ ยังได้เริ่มนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยโดยเฉพาะการร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้าในการใช้ดาวเทียมสำรวจการบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งจะทำให้รู้พิกัดที่ถูกบุกรุกได้เร็ว และสามารถส่งข้อมูลผ่านแอฟพลิเคชั่นพืทักษ์ไพร ทั้งมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ส่งต่อเพื่อให้เจ้าหน้าภาคสนามลงพื้นที่เข้าไปตรวจยึดได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้จากผลการทวงคืนผืนป่าในช่วง ปี 2557-2560 สามารถทวงคืนป่าเฉลี่ยปี 150,000 ไร่ โดยอยู่มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 140,519 ไร่ พื้นที่ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์ 428,452 ไร่ และพื้นที่ป่าชายเลน 39,764 ไร่ รวมทั้งหมด 608,735 ไร่