วันนี้ (22 ก.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอยู่อย่างไร้ความหวัง ไม่มีอาชีพในค่ายผู้ลี้ภัย ทำให้ชาวโรฮิงญาจำนวนมากต้องการเดินทางไปหางานทำ แต่ส่วนใหญ่แทบไม่เหลือทรัพย์สินติดตัว เพราะข้าวของสูญหายไปพร้อมบ้านที่ถูกเผาในรัฐยะไข่ เมียนมา
ชายโรฮิงญาคนหนึ่งบอกว่าถ้ามีโอกาสและรู้ช่องทางในการหางาน เขาพร้อมจะไป เพราะการมีครอบครัวใหญ่ที่ต้องดูแลทำให้รู้สึกว่าการอยู่อย่างไม่มีรายได้ ทำให้ชีวิตสิ้นหวัง ส่วนอีกคนหนึ่งมีความรู้สึกไม่ต่างกัน เขาไม่หวังจะกลับไปเมียนมา แต่การอยู่ที่นี่ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น จึงอยากไปหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่า
มุสตาอิน ฮาอีเดอร์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนโรฮิงญา เปิดเผยว่า ชาวโรฮิงญาต้องการมีชีวิตที่ดีกว่าการอยู่ภายในค่ายผู้ลี้ภัย จึงมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะเดินทางไปประเทศอื่นเพื่อหางานทำ ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียถือเป็นประเทศปลายทางที่เขาต้องการเดินทางไปทำงาน
หลังเกิดเหตุความขัดแย้งในรัฐยะไข่ เมียนมาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ชาวโรฮิงญาจึงเดินทางด้วยเรือจากประเทศบังกลาเทศเข้าไทยบริเวณ จ.ระนอง เพื่อผ่านไปยังประเทศมุสลิม โดยมีนายหน้าทั้งที่เป็นชาวไทย ชาวบังกลาเทศ และชาวโรฮิงญาเป็นผู้พาหนีเข้าเมือง