วันนี้ (2 ต.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีวาระพิจารณาเรื่องความก้าวหน้าการจัดหายา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ ปีงบประมาณ 2561
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านหน่วยงานจัดซื้อยาจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มาเป็นโรงพยาบาลราชวิถี ในปีงบประมาณ 2561 ผู้ป่วยจะไม่ขาดยาอย่างแน่นอน แต่อาจกระทบกับผู้ป่วยที่ต้องรับยาต้านไวรัสเอดส์ เพราะบริษัทผลิตยาไม่ทัน ซึ่งเป็นปัญหาในทุกประเทศ ทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับยาบ่อยขึ้น
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ยาที่ซื้อเพิ่มสามารถใช้ได้ถึงเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งปกติงบประมาณของปี 2561 จะมาสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม เมื่องบประมาณมาถึงก็สามารถซื้อยาตามกระบวนการได้ทันที แต่หากงบประมาณมาไม่ทัน ก็มีข้อตกลงกับ อภ. ว่าจะขอยืมยามาใช้ก่อน
ขณะที่ผลการต่อรองราคายาและเวชภัณฑ์ 9 หมวด 124 รายการ เช่น น้ำยาล้างไต และยา EPO วัคซีน ยาต้านไวรัส เอชไอวี ยากำพร้า และยาต้านพิษ มีทั้งหมด 21 รายการที่ได้ราคาลดลง เนื่องจากยาบางรายการมีจำนวนการซื้อเพิ่มขึ้น และบางรายการมีคู่แข่งในตลาดเพิ่มขึ้น ช่วยประหยัดงบประมาณ 52 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ 2560