วันนี้ (9 ต.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาวิศวกรและสภาสถาปนิกแถลงข่าวเกี่ยวกับความพร้อมและการทดสอบวิศวกรและสถาปนิกที่เข้ามาดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ระยะแรก เส้นทางช่วง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร
นายกมล ตรรกบุตร นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากคำสั่งหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 ฉบับที่ 30/2560 กำหนดให้กระทรวงคมนาคม ประสานสภาสถาปนิกและสภาวิศวกรจัดอบรมสถาปนิกจีนที่จะทำหน้าที่ในโครงการนี้ โดยสิ่งที่ทั้ง 2 สภาจะต้องดำเนินการ คือการจัดทดสอบความรู้ด้านทฤษฎี ซึ่งในส่วนสภาวิศวกร จัดทดสอบรุ่นแรกไปแล้วระหว่างวันที่ 22-25 ก.ย.2560 ได้จัดสอบที่นครเทียนจิน ประเทศจีน ผลทดสอบจำนวน 77 คน พบว่าผ่านทั้งหมด โดยชุดที่ 1 มี 50 ข้อ เกี่ยวกับกฎหมายและจรรยาบรรณไทยใช้เกณฑ์ผ่านที่ 60% หรือ 30 ข้อ ส่วนชุดที่ 2 มี 100 ข้อ ใช้เกณฑ์ผ่านที่ 60% หรือ 60 ข้อ
นายอมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร กล่าวว่า การอบรมหลักสูตรฝึกอบรมและทดสอบวิศวกรเรื่องรถไฟความเร็วสูง ทางวิศวกรจำเป็นต้องรู้เรื่องสภาพพื้นที่ ข้อกฎหมาย และวิธีปฏิบัติงานในประเทศไทย เช่น การทำรถไฟจากจีนไป จ.นครราชสีมา จะมีลักษณะพื้นที่ลาดชันและชั้นดินที่มีลักษณะอ่อนจนไปถึงชั้นดินที่เป็นภูเขา โดยตามแผนงานที่ทราบ โครงการนี้จะเริ่มลงเสาเข็มต่างๆ ในเดือน พ.ย.2560
สำหรับการทดสอบมีไปแล้ว 1 รุ่น คือเมื่อวันที่ 22-25 ก.ย.2560 ส่วนรุ่นที่ 2 จะอบรมวันที่ 12-15 ต.ค.2560 รุ่นที่ 3 วันที่ 27-30 ต.ค.2560 และรุ่น 4 วันที่ 10-13 พ.ย.2560 ซึ่งทั้ง 4 รุ่นนี้ จะได้ใบรับรองไม่ได้กำหนดชัดเจน แต่จะมีอายุไปตลอดจนจบเฉพาะเฟสแรกของโครงการก่อสร้าง ส่วนเฟส 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย จะยังไม่ออกใบรับรองให้ เนื่องจากต้องจัดทดสอบและให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องลักษณะภูมิศาสตร์และลุ่มน้ำต่างๆ ด้วย ซึ่งจะมีลักษณะสภาพพื้นที่แตกต่างกันกับเฟสแรก
นายเจตกำจร พรหมโยธี นายกสภาสถาปนิก กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงในเฟสแรกจะมีสถาปนิกจีน จำนวน 17 คนในรุ่นแรก จะอบรมและทดสอบในประเทศไทย วันที่ 17-20 ตุลาคมนี้ โดย 2 วันแรกอบรม และวันสุดท้ายจะทดสอบ และพาไปดูสถานที่จริง 1 สถานีที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีสภาพเป็นเมืองประวัติศาสตร์ มีความละเอียดอ่อน ส่วนการทดสอบครั้งที่ 2 จะทดสอบในเดือน พ.ย. ซึ่งอาจใช้สถานที่ที่ประเทศไทย หรือจีน ยังไม่กำหนดชัดเจน
ส่วนแนวทางการสอบของสภาสถาปนิก จะดำเนินการคล้ายกับแนวทางของสภาวิศวกร และทราบมาว่าในส่วนของสถาปนิกในจำนวน 17 คนนี้มีเป็นระดับอาจารย์ด้วย มีข้อสอบ 5 วิชา รวม 100 ข้อ เกี่ยวกับจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพในไทย กฎหมาย และ พ.ร.บ.ต่างๆ ที่มีผลต่อการออกแบบอาคาร ซึ่งไม่ได้เป็นสถานีที่เหมือนกัน จะแตกต่างตามลักษณะพื้นที่นั้นๆ เน้นศิลปะวัฒนธรรมไทย จะต้องสะท้อนสถาปัตยกรรมที่เป็นท้องถิ่นไทย มีระดับความเป็นไทยในระดับที่รับได้ สภาพแวดล้อม และสุดท้ายเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างที่รัฐบาลไทยต้องการให้ใช้วัสดุในประเทศที่สำคัญ
สำหรับการสอบครั้งแรก วันที่ 17-18 ตุลาคม สภาสถาปนิกจะใช้ล่ามที่มีขีดความสามารถในศัพท์เทคนิคเป็นภาษาจีน ในระหว่างที่วิทยากรไทยได้บรรรยาย โดยสอบกลุ่มแรก 7 คน เกณฑ์การสอบ ถ้าผ่านเกิน 60% ถือว่าผ่าน ชุดที่ 2 จำนวน 10 คน วันที่ 7-8 พ.ย.2560 ส่วนวันที่ 9 ลงพื้นที่จริง และจะออกใบรับรองให้