สำนักงานต่างประเทศรายงานว่า การศึกษาวิจัยซึ่งเป็นผลงานร่วมกันระหว่าง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยโคโลราโด และมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น นับเป็นผลงานชิ้นแรกในรอบ 20 ปี ที่เจาะจงศึกษาพฤติกรรมของชาวอเมริกัน ท่ามกลางเหตุฆาตกรรมและความรุนแรงจากอาวุธปืนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นักวิจัย ระบุว่า กว่าร้อยละ 90 ของเหตุรุนแรงดังกล่าว เกิดจากผู้ก่อเหตุที่ใช้ปืนพก และจากผลการสำรวจ พบว่า ชาวอเมริกันถึง 3 ล้านคน พกปืนบรรจุกระสุนเอาไว้กับตัวเป็นประจำทุกวัน ซึ่งส่วนมากเป็นเพศชายอายุน้อย และอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ โดยกลุ่มที่พกปืนเหล่านี้ มักมีแนวคิดทางการเมืองแบบอนุรักษ์นิยม และให้เหตุผลว่าต้องการพกปืนเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่ ผลสำรวจชาวอเมริกันที่มีใบอนุญาตพกอาวุธ พบว่า ร้อยละ 80 มีใบอนุญาตพกพาแบบไม่เปิดเผย ร้อยละ 10 ระบุว่า พวกเขาพกอาวุธปืนให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งเสมอ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งที่ยอมรับว่า เคยแอบพกพาอาวุธปืน เข้าไปในรัฐที่มีกฎหมายห้ามพกพาอาวุธอีกด้วย