วันนี้ (6 พ.ย.2560) นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 จ.ตาก ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีนักท่องเที่ยวเจอช้างป่า บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ เมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) ว่าได้กำชับหน่วยงานภายในพื้นที่ สังกัด สบอ14. โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ ให้การดูแลด้านความปลอดภัย จัดเวรยาม และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทั้งยังประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยว ทราบถึงข้อปฏิบัติหากพบช้างป่า เพื่อความปลอดภัย
ด้านนายประสาท กำเนิด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ กล่าวว่า บริเวณอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ มีช้างป่าอยู่ประมาณ 5 - 8 ตัว แต่ช่วงนี้มีการอพยพไปที่อื่น จึงทำให้เหลือในพื้นที่เพียง 3 – 4 ตัวเท่านั้น ซึ่งช้างป่าเหล่านี้จะออกมาเดินหากินเป็นปกติ โดยจุดที่พบส่วนใหญ่เป็นทางสัญจรไปมา ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนในบริเวณอุทยานฯ จะไม่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าอย่างแน่นอน แต่อาจมีผลกับผู้เดินทางผ่านเส้นทางนี้บ้าง ทั้งนี้ได้มีการติดป้ายเตือนบริเวณจุดเสี่ยงไว้ตามเส้นทางต่าง ๆ แล้ว และขอให้ประชาชนศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทาง หากพบช้างป่าควรจอดรถ ดับเครื่องยนต์แล้วรอให้ช้างเดินผ่านไปก่อน ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ยังคงเป็นปกติ มีนักท่องเทียวให้ความสนใจมาพักผ่อนที่อุทยานฯ ในวันเสาร์ – อาทิตย์ จำนวน 200 – 300 คน
8 อุทยานเสี่ยงเจอช้างป่าหน้าหนาว
ขณะที่นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติเป็นพื้นที่ป่าจึงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่แล้ว ดังนั้น ในฤดูท่องเที่ยวนี้ นักท่องเที่ยวจึงมีโอกาสเจอสัตว์ป่าอยู่มาก เนื่องจากพวกเขาอาศัยอยู่ก่อน ทางกรมอุทยานฯ อยากขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว ที่เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติต่างๆ ให้ศึกษาข้อมูลพื้นที่นั้นๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยทางกรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยวในจุดต่างๆ และตั้งศูนย์เตือนภัยเพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด
โฆษกกรมอุทยานฯ กล่าวว่า เบื้องต้นมีอุทยานแห่งชาติ 8 แห่งที่มีโอกาสพบช้างป่าเป็นจำนวนมาก ในช่วงหน้าหนาว ได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จ.จันทบุรี, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา, อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณป่าดงพญาเย็น จ.นครราชสีมา, อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว บริเวณกลุ่มป่าภูเขียว-น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์, อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย, อุทยานแห่งชาติภูเรือ จ.เลย, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.ชัยภูมิ และอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ จ.ตาก