วัคซีนเถื่อนลอบนำเข้าระบาดฟาร์มหมู
กรมปศุสัตว์ตรวจพบ มีการลักลอบวัคซีนจากต่างประเทศที่ยังไม่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานราชการมาใช้ในหมู อาจทำให้เชื้อโรคแพร่ระบาดมากขึ้น และยังพบบางพื้นที่นำหมูตายมาขายให้กับลูกค้า
นายสัตวแพทย์นิรันดร เอื้องตระกูลสุข รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า สถานการณ์โรค PRRS หรือ เพิร์ซ ที่ระบาดในหมูอย่างรุนแรงขณะนี้ มีผลให้ปริมาณวัคซีนที่กรมปศุสัตว์นำไปฉีดให้กับฟาร์มไม่เพียงพอ ทำให้ฟาร์มขนาดใหญ่บางแห่งนำวัคซีนราคาถูกจากจีน และยังไม่ผ่านการรับรองจากกรมฯ มาใช้ ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย และเสี่ยงต่อการให้เชื้อโรคแพร่ระบาดมากขึ้น เพราะวัคซีนดังกล่าวอาจนำเชื้อโรคที่ยังไม่ตายมาผลิต และเมื่อฉีดเข้าไปในหมู ทำให้หมูติดเชื้อได้ ซึ่ง กรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสุ่มตรวจยังฟาร์มต่างๆ แล้ว หากตรวจพบว่ามีการใช้วัคซีนดังกล่าว ก็จะยึดใบรับรองมาตรฐานฟาร์มทันที
ช่วงแรกที่เกิดการโรคระบาดในหมู มีฟาร์มหมูบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนำหมูตายจากการติดเชื้อมาชำแหละขายให้กับลูกค้าซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้เชื้อโรคดังกล่าวไม่ติดต่อมายังคน แต่กรมฯ ต้องเข้มงวดการเคลื่อนย้ายหมูตายและหมูป่วยจากฟาร์มต่างๆมากขึ้น
ขณะที่การประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. วันนี้ (5 ส.ค.) ได้เสนอมาตรการดูแลราคาหมู ตั้งแต่การส่งออกที่ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายใน หลังพบว่าครึ่งปีแรกมีการส่งออกหมูไปกว่า 200,000 ตัว จากปกติปีละไม่เกิน 100,000 ตัว , นอกจากนี้ ผู้เลี้ยงต้องแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บ รวมถึงการดูแลราคาหมูตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยหมูเป็นกิโลกรัมละ 81-87 บาท หมูเนื้อแดง 150-162 บาท ซึ่งมาตรการทั้งหมดนี้มีระยะเวลา 6 เดือน และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมนี้