"เซี่ยงไฮ้" เก็บกวาดความเสียหายหลังไต้ฝุ่น "เบบินคา" ถล่ม

เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2567 อิทธิพลของพายุสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง การคมนาคมเป็นอัมพาตชั่วคราว ซึ่งตอนนี้พายุเคลื่อนตัวออกไปยังมณฑลใกล้เคียงแล้ว และคาดว่าจะทำให้ฝนตกในพื้นที่ทางตะวันออกของจีน ในช่วง 2-3 วันนี้

กล้องวงจรปิดในเซี่ยงไฮ้บันทึกภาพนาทีต้นไม้หักโค่นลงมากลางถนน ไม่กี่วินาทีก่อนรถจักรยานยนต์คันหนึ่งจะขับไม่ถึง ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันจัดการซากต้นไม้ที่ล้มขวางถนนทั้งในจุดนี้และอีกหลายจุด โดยมีรายงานต้นไม้ในเมืองโค่นล้มไปมากกว่า 1,800 ต้น หลังอิทธิพลของไต้ฝุ่นเบบินคาที่พัดขึ้นฝั่งเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (16 ก.ย.) ทำให้ฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วเมือง

โดยพายุลูกนี้มีความเร็วลมสูงสุดถึง 151 กม./ชม. ถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่ถล่มเซี่ยงไฮ้ในรอบ 75 ปี ต่อจากพายุไต้ฝุ่นกลอเรียเมื่อปี 2492

สภาพอากาศเลวร้ายทำให้การคมนาคมในเซี่ยงไฮ้เป็นอัมพาตชั่วคราว หลังจากสนามบินหลัก 2 แห่งของเซี่ยงไฮ้ยกเลิกเที่ยวบินไปกว่า 1,460 เที่ยวบิน ขณะที่รถไฟใต้ดิน 5 สาย และรถไฟต้องงดเดินรถ นอกจากนี้ยังทำให้ประมาณ 30,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่ประชาชนมากกว่า 400,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ระดมกำลังทยอยเก็บกวาดซากความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังพายุเคลื่อนตัวออกจากเซี่ยงไฮ้ไปยังมณฑลที่อยู่ใกล้เคียงตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ ซึ่งทำให้เที่ยวบินต่าง ๆ เริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้ง

ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาจีนคาดการณ์ว่าเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจ้อเจียง เจียงซู อานฮุย และเหอหนาน จะเผชิญฝนตกหนักในช่วงหลายวันข้างหน้านี้

อ่านข่าว : "พายุเบบินคา" ถล่มเซี่ยงไฮ้จ่ออีกลูก โซนร้อน "ปูลาซัน"

"ยางิ" ถล่มเวียดนามเสียหายมากกว่า 53,000 ล้านบาท

สื่อทางการเวียดนาม รายงานว่า ไต้ฝุ่นยางิสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากถึง 40 ล้านล้านดอง หรือประมาณ 53,200 ล้านบาท เนื่องจากทำให้เกิดน้ำท่วมแถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ที่มีประชากรหนาแน่น และยังเป็นที่ตั้งฐานการผลิต รวมถึงพื้นที่เพาะปลูก สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และโรงงานจำนวนมาก

อิทธิพลจากพายุ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 292 คน สููญหาย 38 คน และบ้านเรือนเสียหายกว่า 230,000 หลัง ส่วนพื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,750,000 ไร่ ในเวียดนาม

ขณะที่ในเมียนมา โครงการอาหารโลก ภายใต้องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า อิทธิพลจากพายุลูกนี้นับว่ารุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคใหม่

ครั้งล่าสุดที่เมียนมาเผชิญอุทกภัยรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 และ 2558 โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน ขณะที่พายุไซโคลนนาร์กิสเมื่อปี 2551 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 138,000 คน โดยครั้งนี้ อิทธิพลจากพายุยางิ ทำให้ตัวเลขความสูญเสียจากรัฐบาลทหารเมียนมายังอยู่ที่ 113 คน และประชาชนรวมถึงผู้พลัดถิ่นภายในประเทศกว่า 320,000 คนต้องอพยพหนีภัยน้ำท่วม

อ่านข่าวเพิ่ม :

ด่วน! น้ำทะลักหน้า ม.พะเยา เร่งอพยพคนออกจากพื้นที่

สัญญาณดี! ระดมความช่วยเหลือเร่งฟื้นฟู แม่สาย-เชียงราย