วานนี้ (16 พ.ย.2560) การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ในวาระ 2-3 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ การนำเงินจากภาษีบาปได้แก่สุราและยาสูบ จำนวนร้อยละ 2 หรือไม่เกิน 4,000 ล้านบาทต่อปี นำส่งเข้ากองทุนเพื่อจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย โดยกำหนดให้คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเป็นผู้กำหนดคุณสมบัติของผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ทั้งนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 30 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุตามร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ให้แก่ผู้สูงอายุทุกคน จะให้เฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี และมีรายได้น้อย ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ที่ได้ไปขึ้นทะเบียนคนจนกับรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาเท่านั้น ใครไม่ไปขึ้นทะเบียนคนจนไม่มีสิทธิได้เงินจำนวนนี้ ส่วนผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยจะได้เงินคนละเท่าใด ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯจะไปกำหนดหลักเกณฑ์อีกครั้ง
ทั้งนี้สมาชิก สนช.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการนำเงินจากภาษีบาปไปช่วยผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย แต่ขอให้กำหนดหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยให้มีความชัดเจน ก่อนที่ประชุม สนช.จะลงมติให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวในวาระ 3 ด้วยคะแนน 181 ต่อ 0 งดออกเสียง 6 ให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป