ส่วนกรณีปล่อยให้ผู้ต้องขังชาวอุยเกอร์ 20 คน เจาะกำแพงอาคารควบคุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา หลบหนีไป รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งมองว่า เป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่
สำหรับกรณีนี้ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 ได้มีคำสั่งให้ ผู้กำกับการ และรองผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสงขลา และพวก 6 นาย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 โดยไม่มีกำหนด พร้อมกับสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาดังกล่าวมีความบกพร่องจนทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้หรือไม่
สำหรับชาวอุยเกอร์ที่หลบหนีจำนวน 20 คน ครั้งนี้ เป็นชาวอุยเกอร์จากจำนวนทั้งหมด 25 คน ซึ่งยังถูกควบคุมตัว อยู่ที่ห้องควบคุมด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้รวม 295 คน ระหว่างการควบคุมตัวมีการหลบหนีอย่างต่อเนื่องและก่อนหน้านี้ ในเดือนต.ค.ปี 2558 เจ้าหน้าที่ได้พิสูจน์สัญชาติ และส่งตัวชาวอุยเกอร์กว่า 80 คน กลับไปยังประเทศตุรกี และประเทศจีน ทำให้เหลือที่ควบคุมตัวไว้ 25 คน และจากการหลบหนีครั้งล่าสุด ทำให้เหลือชาวอุยเกอร์ที่อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่รวม 5 คน
ส่วนกรณีการตั้งคณะกรรมการสอบการร้องเรียนเรื่องตำรวจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เรียกรับส่วย และมีการสั่งย้ายตำรวจไปนับสิบนายแล้ว พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การสอบสวนข้อเท็จจริง เป็นอำนาจของคณะกรรมการที่มี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติเป็นประธาน
ส่วนของตำรวจที่ยังคงปฏิบัติงาน ยังทำงานอย่างเต็มความสามารถ และเห็นว่าข้อมูลเรียกรับส่วย ไม่ได้หมายความว่า ตำรวจทุกคนจะมีส่วนได้ส่วนเสียเรื่องนี้ทั้งหมด และเชื่อว่าผู้ที่มาทำหน้าที่คนใหม่ จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด และต้องช่วยกันแก้ปัญหา เช่น หากร้านค้าใดถูกรีดไถ ให้ติดป้ายไว้ว่าไม่จ่ายเงิน และหากมีการเรียกรับให้แจังมาโดยตรงจะดำเนินการให้เอง รวมถึงกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า รัฐบาลหรือทหารเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน และส่งคนไปตรวจสอบในทางลับ เพราะทำให้เกิดความเสียหาย