สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 มีหนังสือสั่งย้ายครูโรงเรียนวรนคร อ.ปัว จ.น่าน ไปปฏิบัติราชการที่เขตการศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 2 เป็นการชั่วคราว พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง
หลังผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 จำนวน 4 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรปัว เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2560 โดยกล่าวหาทำโทษเกินกว่าเหตุ จับศีรษะเด็กโขกกับกระดาน ใช้ไม้ตีหลังและใช้เล็บหยิกข่วนแขน เนื่องจากนักเรียนไม่ส่งการบ้าน อีกทั้งที่ผ่านมาก็เคยลงโทษเด็กรุนแรงจนถูกทำทัณฑ์บนมาแล้ว
พ.ต.อ.อัครวัฒน์ พุ่มไพศาลชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปัว เปิดเผยว่า ตำรวจรอผลตรวจบาดแผลจากแพทย์ ก่อนจะออกหมายเรียกครูผู้ถูกกล่าวหา เบื้องต้นทราบว่าเด็กมีบาดแผลที่ริมฝีปาก แขนและหลัง ขณะที่การสอบสวนต้องมีทีมสหวิชาชีพร่วมด้วยเพราะมีเด็กเป็นผู้เสียหาย
ส่วนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 จ.บุรีรัมย์ ตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดวินัยร้ายแรงครูที่ถูกกล่าวหา ว่ามีพฤติกรรมลงโทษเด็กและส่งคลิปโป๊เปลือย ข้อความลามกอนาจารและขอมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนหญิง ซึ่งหากพบหลักฐานชัดเจนว่ากระทำผิดตามที่ถูกร้องเรียนจะมีโทษถึงขั้นไล่ออกหรือเลิกจ้าง
ซึ่งความคืบหน้ากรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ นำหลักฐานข้อความ บทสนทนาผ่านแอพพลิเคชันไลน์ โดยอ้างว่าครูผู้สอนวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา ส่งให้กับบุตรสาว ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีเนื้อหาลามกอนาจารและส่งคลิปโป๊ ขอมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งยังลงโทษด้วยการตีเด็กหลายครั้ง
ล่าสุดนางปติมา กาญจนากาศ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 หรือ สพม.32 เปิดเผยว่า หลังจากสอบปากคำนักเรียนที่ถูกกระทำ พยานแวดล้อมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพบว่าเรื่องนี้มีมูล สพม.32 จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาครูคนนี้ 2 ข้อหา คือ ทำโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุและมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศลูกศิษย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้ โดยหากพบหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะมีโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออกหรือเลิกจ้าง เนื่องจากเป็นพนักงานราชการ การพิจารณาลงโทษจะขึ้นอยู่กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ
เบื้องต้นได้สั่งย้ายครูคนนี้มาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ จนกว่าผลการสอบจะแล้วเสร็จ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย