วันนี้ (19 ธ.ค.2560)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ได้คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 23 -25 ธ.ค.นี้ พายุไคตั๊ก จะเคลื่อนตัวผ่านภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย ลงสู่ทะเลอันดามัน ส่งผลกระทบให้บริเวณพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยตั้งแต่จ.ชุมพรลงไปมีฝนเพิ่มมากขึ้น และจะมีฝนหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดพังงา กระบี่ ตรัง สตูล
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ สถานการณ์เริ่มคลี่คลายเกือบทั้งหมด ยังคงเหลือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี พัทลุง และนครศรีธรรมราช แต่เนื่องจากในช่วงปลายสัปดาห์นี้ จะมีพายุไคตั๊กเข้ามาจะมีฝนตกทั่วไปในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานเตรียมพร้อมดูแลประชาชน ตั้งแต่การแจ้งเตือนอพยพ รวมถึงให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นไปแล้ว
ขณะที่กรมชลประทาน ได้มอบหมายให้สำนักงานชลประทานที่ 14 - 17 ติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในความรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด สำหรับอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำในเกณฑ์มากให้พิจารณาระบายน้ำเพื่อรองรับน้ำฝนระลอกใหม่ และเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือติดตั้งในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบด้วย
เตือนคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่งในสงขลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากลมแรงและคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง เดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในช่วงวันที่ 18-23 ธ.ค. เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยภาคใต้และทะเลอันดามัน โดยเฉพาะบริเวณ จ.นครศรี ธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานียะลา และ นราธิวาส
ขณะที่ชายหาดชื่อดังทั้งหาดเฉวง แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หาดสมิหลา และหาดเก้าเส้ง จ.สงขลา ต่างปักธงแดงเตือนไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ ขณะที่บริเวณหาดบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา คลื่นได้ซัดมาถึงถนนสายสงขลา-ตลิ่งชันได้รับความเสียหาย ส่วนที่ชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แม้ยังไม่มีการปักธงแดง แต่พบว่าคลื่นสูง 1-2 เมตร ประกอบกับมีลมพัดแรง ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารบนชายหาดหัวหินบางส่วนต้องเคลื่อนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ เตียงผ้าใบออกจากชายหาดเพื่อความปลอดภัย
