วันนี้ (22 ธ.ค.2560) ผู้เสียหายจากกรณีโรงงานอบลำไยระเบิด ที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2542 กลุ่มนี้เป็นผู้เสียหายชุดสุดท้าย 35 คน ได้แก่ผู้ได้รับความเสียหายและญาติผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำสัญญาประนีประนอมยอมความ หลังทนายฝ่ายจำเลย และฝ่ายโจทก์ ไกล่เกลี่ยคดีแพ่งจนได้ข้อยุติ
ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายชุดแรก 22 คน ได้เข้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ผู้เสียหายบางส่วน เปิดเผยว่า เนื้อหาสำคัญของสัญญาประนีประนอมยอมความ คือฝ่ายจำเลย ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย ย้อนหลัง 18 ปี ภายใน 6 เดือน ตามจำนวนเงินที่ได้รับความเสียหาย
ส่วนผู้เสียชีวิตได้ค่าชดเชย คนละ 540,000 บาท เพื่อยุติคดีทางแพ่ง ที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอสืบพยานเพิ่ม ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี ทั้งนี้ ผู้เสียหายทุกคนพอใจเงื่อนไข เพราะสู้และเรียกร้องมานานกว่า 19 ปี
“เราใช้กระบวนการทางศาลเรียกร้องครั้งนี้ เราต้องการให้มีผู้ชดใช้ความเสียหายที่เราได้รับ ที่เป็นห่วงคือเมื่อครบ 6 เดือนไปแล้ว กลัวจะไม่ได้รับการชดใช้ นี่คือสิ่งที่ทางผู้ประสบภัยทั้งหมดมีความเป็นห่วง” นายธนากร ชำนิชลธิศ ผู้เสียหาย กล่าว
“เราใช้เวลามานานประมาณ 17-18 ปี ขอให้ปัญหาทั้งหมดจบในวันนี้ มีการตกลงคุยกัน” นายสุทัศน์ แก้วปัญญา ผู้เสียหาย กล่าว
เหตุการณ์โรงอบลำไยระเบิด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2542 มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 36 คน บาดเจ็บ 2 คน และทรัพย์สินชาวบ้านเสียหายกว่า 400 คน คดีนี้ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 คือบริษัทที่ดำเนินการ สั่งปรับเป็นเงินจำนวน 60,000 บาท จำเลยที่ 2 ผู้จัดการ สั่งจำคุก 6 ปี 10 เดือน 20 วัน จำเลยที่ 3 ประธานกรรมการบริหารบริษัท ซึ่งมีพฤติกรรมที่จะหลบหนี ให้จำคุก 10 ปี 2 เดือน และจำเลยที่ 4 หุ้นส่วนชาวไต้หวัน ให้จำคุก 10 ปี ในคดีอาญา ทั้งนี้ ช่วงปลายปี 2559 กลุ่มผู้เสียหายจะฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย