วันนี้ (27 ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยศัลยศาสตร์ระบบทางตับ ทางเดินน้ำดี และตับอ่อน ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายตับ รักษาผู้ป่วยโรคตับแข็งระยะสุดท้าย โรคตับวายเฉียบพลันรุนแรง และมะเร็งตับที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ ช่วยผู้ป่วยมีอัตราการอยู่รอดหลัง
นพ.สัณหวิชญ์ จันทร์รังสี อาจารย์ประจำหน่วยศัลยศาสตร์ระบบทางตับ ทางเดินน้ำดี และตับอ่อน ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การปลูกถ่ายตับถือว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายของการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะตับวาย ผู้ป่วยหลายรายรอดชีวิต และสามารถกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว
โดยตับใหม่ได้มาจาก 2 วิธี ได้แก่ จากรับบริจาคตับจากผู้ป่วยสมองตาย และวิธีที่ 2 รับบริจาคอวัยวะจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิต ซึ่งเป็นบุคคลภายในครอบครัว หรือญาติพี่น้อง หรือคู่สมรส จะช่วยลดอัตราการตายจากการรออวัยวะของผู้รับบริจาค และลดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดลงได้มาก ทั้งนี้ ตับเป็นอวัยวะที่งอกได้ หากตับถูกตัดจะค่อยๆ งอกขึ้นได้
ปัจจุบันได้ทำการปลูกถ่ายตับจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตให้แก่ผู้ป่วยผู้ใหญ่แล้ว 15 คน ซึ่งเป็นจำนวนการผ่าตัดปลูกถ่ายตับที่มากที่สุดในประเทศไทย หนึ่งในนั้นเป็นการบริจาคตับของบุตรชายให้มารดาที่ป่วยเป็นโรคตับแข็ง สาเหตุเกิดจากโรคไวรัสบี ทำให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และแข็งแรงเหมือนเดิม
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคอวัยวะแก่เพื่อนมนุษย์ เพื่อต่อชีวิตต่อลมหายใจของผู้ป่วยที่รอความหวัง ถือว่าเป็นทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ และเป็นที่สุดแห่งการให้ครั้งสุดท้ายของชีวิต ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053 936413 และ 0918513391