วันนี้ (4 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลได้ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายแรงงานต่างด้าวออกไป เป็นเรื่องที่เหมาะสม เนื่องจากขณะนี้มีแรงงานที่อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนกว่า 900,000 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 1.04 ล้านคน ซึ่งหากไม่ต่อเวลาออกไปอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อนายจ้าง
นายธนิต กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เดือนส.ค. กระทรวงแรงงานขึ้นทะเบียนไปประมาณ 1 ล้านคนเท่านั้น ด้วยเวลาในการดำเนินงาน เฉลี่ยต่อคนใช้เวลาประมาณ 13 ชั่วโมง ทำให้เขตพื้นที่แรงงานแต่ละแห่งรองรับแรงงานต่างด้าวที่มาขึ้นทะเบียนได้เพียง 500-600 คน แต่นโยบายใหม่ที่ได้ปรับเปลี่ยนแนวการทำงาน ทำให้ลดเวลาจากเดิมลงเหลือคนละไม่เกิน 2 ชั่วโมง และเพิ่มจำนวนการขึ้นทะเบียนเป็นวันละ 1,200 คน น่าจะทำให้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดได้ทัน ตามกรอบเวลาใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในครั้งนี้ จะทำให้แก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวได้มาก
ด้านพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการขยายระยะเวลาการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ว่า จะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมครม. เพื่อให้พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งแรงงานต่างด้าวบางส่วนจากเดิมใบอนุญาตหมดอายุไปตั้งแต่สิ้นเดือนธ.ค.แล้ว และอีกกลุ่มจะหมดอายุในวันที่ 31 มี.ค.นี้ จึงต้องขอขยายเวลาในการพิสูจน์สัญชาติออกไป
ทั้งนี้การจัดระเบียบพิสูจน์สัญชาติประเทศต้นทางจะเข้ามาดำเนินการเอง ซึ่งอาจทำให้มีข้อจำกัด ดังนั้น จึงต้องจัดระบบใหม่เพื่อให้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างประเทศต้นทาง กระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ และแรงงาน โดยในส่วนของเครื่องสแกนม่านตาที่ใช้ในการพิสูจน์สัญชาตินั้น จากเดิมที่ใช้ของต้นทางยังไม่เพียงพออาจจะต้องมีการเพิ่มเติมจากเดิมต่อไป