เมื่อวานนี้ (7 ม.ค.2561) สถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีปริมาณลดต่ำเร็วกว่าทุกปี จนมองเห็นตอม่อสะพานโผล่ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณภัยแล้งตั้งแต่ต้นปี จากปริมาณน้ำมูลที่ลดต่ำดังกล่าว ส่งผลกระทบกับเกษตรกร บ้านท่าเรือ หมู่ 7 ต.ท่าม่วง อ.สตึก ต้องชะลอการเลี้ยงปลากระชัง เพราะเกรงว่าปริมาณน้ำที่น้อยไม่ไหลเวียน จะทำให้เกิดกรด แก๊ส จะทำให้ปลาน็อกตายได้
เกษตรกรบ้านท่าเรือ จะทำอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังจับขายมากกว่า 30 ครัวเรือน ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 5 ราย โดยลดปริมาณปลาลงจากที่เคยเลี้ยงเท่าตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุน หากเกิดปลาน็อกตาย จากภาวะภัยแล้งปริมาณน้ำมูลตื้นเขินดังกล่าว
นายเกตุ เยี่ยมรัมย์ เกษตรกรบ้านท่าเรือ กล่าวว่า ที่ผ่านมาน้ำในลำน้ำมูลจะลดระดับลงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ แต่ปีนี้ปริมาณน้ำลดลงเร็วกว่าปกติ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าปีนี้จะประสบปัญหาภัยแล้งตั้งแต่ต้นปี ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังขาย รวมถึงเกษตรกรที่อาศัยน้ำในลำน้ำมูลทำการเกษตร จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ จากปริมาณน้ำมูลที่ลดต่ำลง เกษตรกรจึงต้องชะลอการเลี้ยงปลากระชัง เพื่อลดความเสี่ยงปลาน็อกตายที่อาจจะทำให้ประสบปัญหาขาดทุนได้ ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรเผชิญกับปัญหาภัยแล้งติดต่อกันมาหลายปี จึงอยากให้ทางภาครัฐเร่งดำเนินการก่อสร้างฝาย หรือเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำมูลไว้ให้เกษตรกรใช้ในการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตรและเลี้ยงปลากระชังตลอดทั้งปีด้วย