จากกรณีเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นและควบคุมตัวหญิงบริการภายในสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท พบว่าส่วนใหญ่เป็นหญิงชาวต่างชาติ ขณะที่หลายคนตั้งคำถามถึงความสมัครใจในการขายบริการ พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่าไม่ได้ถูกกักขังหรือบังคับ
นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนขององค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หญิงชาวต่างชาติกลุ่มนี้ถูกชักชวนให้มาทำงาน เช่น เสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟอาหาร หรือมาทำงานนวด แต่เมื่อเดินทางมาถึงประเทศปลายทาง กลับพบว่าไม่ใช่งานที่พูดคุยกันไว้ โดยให้ขายบริการทางเพศ ซึ่งมีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่เธอไปไหนไม่ได้ เนื่องจากถูกยึดหนังสือเดินทางและติดหนี้สินจากค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง รวมทั้งคนนำทางอาจจ่ายเงินบางส่วนให้กับครอบครัวของหญิงที่ประเทศต้นทางแล้ว จึงต้องทำงานชดใช้หนี้ดังกล่าว ซึ่งบางคนที่พบในวิคตอเรีย ซีเครท ยังติดหนี้และต้องให้บริการทางเพศกับลูกค้าอย่างน้อย 3 รอบต่อคืน ขณะที่คนนำพาจะมาตรวจสอบกับแคชเชียร์ในแต่ละเดือนว่าเด็กของตัวเองให้บริการจำนวนกี่ครั้ง และหักเงินที่เด็กติดหนี้ พบว่าแต่ละเดือนหญิงสาวแทบไม่มีเงินเหลือ เนื่องจากมีการบังคับซื้อถุงยางอนามัย ค่าใช้จ่ายแต่งหน้าทำผม ค่าอาหาร
เด็กเหล่านี้ถูกขู่ด้วยว่าเอกสารติดตัวไม่มี ไปไหนมาไหนไม่ได้ เขากลัวโดนตำรวจจับติดคุก จะให้เขาไปไหนได้ เห็นประตูเปิดทำไมเขาไม่หนี เขาอยู่ในสภาพถูกบังคับทางอ้อม เมื่อให้บริการลูกค้าก็ต้องนำเงินไปจ่ายให้เจ้าหนี้ เป็นหนี้ที่ก่อโดยความไม่เป็นธรรม วันๆ หนึ่งเขาไม่มีเงินกินข้าว ต้องกู้หนี้ยืมสินกัน ซื้อมาม่ามากินประทังชีวิต นี่คือสภาพทาสในยุคปัจจุบัน
ขณะที่วันนี้ พ.ต.ท.สุภัทร์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ และคณะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จะเดินทางเข้าไปรับสำนวนคดี วิคตอเรีย ซีเคร็ท ที่ สน.วังทองหลาง