วันนี้ (22 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยว ตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา จ.ชลบุรี ว่ามีร้านขายอาหารพวกปลาหมึกย่าง และอาหารทะเลย่างแห่งหนึ่ง มีการนำม้าน้ำย่างเสียบไม้ขายโดยนำมาวางขายในราคาไม้ละ 150 บาท ซึ่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจและถ่ายรูป จากการสอบถามเจ้าของร้านบอกว่าเป็นม้าน้ำย่างจริง กลุ่มที่นิยมบริโภคเป็นชาวจีน แต่จากการสังเกตพบว่ามีนักเที่ยวต่างชาติเองก็ให้ความสนใจ และถ่ายรูปหลายคน
ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถาม นางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง ยอมรับว่าขณะนี้ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส ห้ามแค่การนำเข้าและส่งออกม้าน้ำ ซึ่งเป็นสัตว์ในบัญชี 2 ของอนุสัญญาไซเตส แต่ในประเทศไทย ยังเป็นช่องว่างที่นำมาวางขายได้ ยกเว้นถ้าประกาศเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ยอมรับว่ารู้สึกงง เพราะม้าน้ำตัวเล็กไม่มีเนื้อมีหนังให้กิน แต่รู้ว่ามีการนำไปทำยาได้ กรณีนี้กรมประมง จะส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบว่ามีการวางขายม้าน้ำชนิดไหน และมีการวางจำหน่ายเป็นปกติหรือไม่ แต่อาจแค่ตักเตือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ในปี 2559 ที่ประชุมไซเตส ครั้งที่ 67 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เพิ่งมีมติถอดรายชื่อประเทศไทย ออกจากกระบวนการทบทวนมาตรการการค้าสำคัญของม้าน้ำยักษ์ ม้าน้ำหนาม และม้าน้ำดำ เนื่องจากประเทศไทยกำหนดมาตรการชั่วคราว ห้ามการส่งออกม้าน้ำออกนอกราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2559 หลังจากที่ไทยถูกแบนเนื่องจากถูกกล่าวหาว่ายังคงลักลอบนำเข้าและส่งออกม้าน้ำตากแห้ง จนมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์และทำให้ไทยต้องมีการเสนอแผนแก้ปัญหาการค้าม้าน้ำ และเพิ่มจำนวนประชากรในทะเล โดยเฉพาะกลุ่มม้าน้ำดำ ม้าน้ำหนาม
ขณะที่ความเชื่อในการบริโภคม้าน้ำ จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญระบุว่าคนจีนนิยมนำไปเป็นส่วนผสมของยาจีน บางส่วนเชื่อว่ารักษาโรคหวัด สร้างความเจริญเติบโตให้กับร่างกายและบำรุงสมรรถภาพทางเพศ