วันนี้ (29 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นหนังสือให้ สตง.ตรวจสอบ สนช.ทั้ง 23 คน หลังผ่านร่างกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. โดยได้กำหนดให้มีการเลื่อนการบังคับใช้ออกไป 90 วัน อันมีผลให้ต้องมีการเลื่อนการเลือกตั้งจากเดือนพฤศจิกายน 2561 ออกไปประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งไม่เป็นไปตามโรดแมปที่นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เคยให้คำมั่นสัญญาต่อนานาอารยประเทศและสังคมไทย
สำหรับการใช้อำนาจของ สนช.เป็นการบัญญัติกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ไม่เคยปรากฏรูปแบบดังกล่าวเลยนับตั้งแต่มีการบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. นับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เป็นต้นมา ทั้งนี้ การที่ สนช.ใช้อำนาจเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวออกไป จะทำให้ สนช.ได้รับประโยชน์จากเงินประจำตำแหน่งและผลประโยชน์ตอบแทนอื่นอีกคนละ 100,000-200,000 บาทต่อเดือน ต่อไปอีกมากกว่า 3 เดือนจนกว่าจะมีการเรียกประชุมรัฐสภาครังแรก หลังการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 263 ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติเสียหายจากระบบการเงินการคลังอีกกว่า 100 ล้านบาท
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเชื่อว่า สนช.ทั้ง 213 คนจงใจใช้อำนาจไปในทางเอื้อประโยชน์ให้กับ คสช.และตนเอง อันเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ และจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายประการ หรืออาจทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจรติหรือเที่ยงธรรม เพราะอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใหม่บางพรรคที่ส่อไปในทางสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช.ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปด้วย สมาคมฯ จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน/ผู้ว่า สตง. เพื่อดำเนินการตรวจสอบร่วมกับ ป.ป.ช. และ กกต. เพื่อลงโทษ 231 สนช.ดังกล่าว ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 244 และมาตรา 245 บัญญัติไว้