วันนี้ (31 ม.ค.2561) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า ได้รวบรวมข้อกล่าวหาตำรวจจากผู้เสียหายและผู้ต้องหาคดียาเสพติด กรณีตำรวจยัดยาเสพติด พบว่า การยัดยาเสพติดทำเพื่อเป็นการสร้างผลงานให้กับตัวเอง จับและลดจำนวนยาโดยเรียกเงินจากผู้ต้องหา นำยาไปขายต่อ รับเงินทำสำนวนให้อ่อน และจับผู้ต้องหาบางคนที่ไม่ส่งส่วยให้
“ปกติที่เราเคยทำสถิติมา คนที่จะถูกเรื่องยาเสพติด ส่วนมากจะเป็นคนที่เคยเสพมาก่อน หรือคนที่เคยมีประวัติอาชญากรเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อพวกนี้ออกมาจากเรือนจำแล้ว ก็จะตกเป็นเหยื่อของตำรวจ เพื่อจะเอาผลงาน โดยเฉพาะหลังจากแต่งตั้งโยกย้ายแล้ว กลุ่มคนที่มีประวัติแบบนี้ต้องคอยระมัดระวังเลย จะตกเป็นเหยื่อง่าย เพราะตำรวจมีข้อมูลของคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว” นายอัจฉริยะ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่เคยถูกยัดยาเสพติด จากปี 2557 -2560 พบพื้นที่เกิดเหตุส่วนใหญ่จะอยู่รอบนอก อาทิ ย่านมีนบุรี หนองจอก หรือในพื้นที่รอยต่อปริมณฑล และมักประสบเหตุในเวลากลางคืน
ส่วนตำรวจพบว่าเป็นตำรวจสายงานสืบสวนมากกว่าสายงานจราจร และมักเลือกผู้ที่มีประวัติเสพยาเสพติด
จากข้อมูลช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ผู้เสียหายที่ร้องเรียนถูกตำรวจยัดข้อหายาเสพติดจำนวน 1,000 คน แต่เมื่อตรวจสอบจะพบกระทำความผิดจริงไม่ถึง 50 คน