ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผอ.ร.ร.พรากผู้เยาว์-อนาจาร นร.ม.2 รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว - ปฏิเสธและขอให้การในศาล

อาชญากรรม
31 ม.ค. 61
11:23
1,519
Logo Thai PBS
ผอ.ร.ร.พรากผู้เยาว์-อนาจาร นร.ม.2 รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว - ปฏิเสธและขอให้การในศาล
ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักเรียนชั้น ม.2 ในจังหวัดนครราชสีมา เดินทางมาสถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่แล้ว เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

วันนี้ (31 ม.ค.2561) เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีพรากผู้เยาว์และอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และคดีหมิ่นประมาท

หลังมีผู้ปกครองนักเรียนและกรรมการสถานศึกษา ร้องเรียนว่าผู้อำนวยการโรงเรียนมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับเด็กนักเรียนชั้น ม.2 โดยมีหลักฐานการพูดคุยผ่านแอพพลิเคชันไลน์ รวมถึงเพื่อนนักเรียนหญิงที่ยืนยันว่าผู้อำนวยการโรงเรียนเคยนัดเจอกับเด็กนักเรียนที่รีสอร์ทไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง

พ.ต.อ.คารม บุญสด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ ระบุว่า หากผู้อำนวยการมารายงานตัวตามหมายเรียก ทางพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งความดำเนินคดีใน 2 ข้อหา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตำรวจได้สอบปากคำพยานไม่ต่ำกว่า 10 ปาก รวมทั้งนักเรียนหญิงชั้น ม.2 แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสอบสวนใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง มีทนายความประจำศาลจังหวัดบัวใหญ่เข้าร่วมรับฟัง เบื้องต้นผู้อำนวยการโรงเรียนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ ระบุว่าได้ปล่อยตัวชั่วคราว และนัดเข้าสอบปากคำอีกครั้ง วันที่ 5 มีนาคม ระหว่างนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุด

ส่วนความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงผู้อำนวยการโรงเรียน นายสุวิทย์ ศรีฉาย รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่าจนถึงขณะนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนยังไม่มารายงานตัวกับคณะกรรมการ โดยอ้างว่าป่วย แต่หากผูบังคับบัญชายังไม่เซ็นอนุมัติก็จะถือว่าขาดงาน ซึ่งขณะนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนขาดงานมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ หากขาดงานครบ 15 วันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ก็จะถูกลงโทษวินัยร้ายแรง ส่วนการสอบสวนของคณะกรรมการ กำหนดกรอบระยะเวลาภายใน 120 วัน หากพบว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง ก็จะมีโทษไล่ออก หรือให้ออกจากราชการ

ส่วนเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ที่ถูกพาดพิง ขณะนี้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับไปอยู่ในความดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจ เนื่องจากพบว่าเด็กมีความเครียด ซึ่งรักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัด สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอำนวยความสะดวกด้านการเรียนการสอนเพื่อไม่ให้กระทบ เนื่องในช่วงนี้อยู่ในช่วงใกล้สอบ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง