เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.2561) ความคืบหน้ากรณีกลุ่มองค์กรช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง เตรียมแจ้งความดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับการกำจัดสุนัขและแมวกว่า 100 ตัว ของชาวบ้านจะลอ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อควบคุมการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า โดยนายนพพร มหากันธา ปศุสัตว์ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่เพื่อป้องกันการระบาดของโรคไปสู่คน จึงต้องมีการป้องกันและควบคุม โดยยอมรับว่าตามหลักการจะต้องมีการควบคุมพื้นที่ และกักกันสัตว์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นเวลา 6 เดือน แต่เพราะพื้นที่เป็นชุมชนชาวไทยภูเขา บ้านแต่ละหลังปลูกติดกัน ไม่มีรั้วรอบขอบชิด และชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีกรงกักสัตว์ จึงเห็นควรในการนำไปกำจัด และตรวจหาเชื้อตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ โดยมีการทำประชามติ ซึ่งทั้งชาวบ้าน และผู้นำหมู่บ้านต่างเข้าใจดี
ส่วนในการกำจัดสัตว์ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทารุณสัตว์ตามที่หลายฝ่ายคิด เพราะเป็นไปตามหลักวิชาการของกรมปศุสัตว์ และมีหน่วยงานด้านสาธารณสุขเข้าร่วม รวมทั้งไม่มีการข่มขู่ชาวบ้าน หรือเกิดการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด มีเพียงการชี้แจงข้อกฎหมายแก่ชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เข้าใจ มีเพียงบางส่วนที่จะขอกักกันสัตว์เอง ซึ่งปศุสัตว์ จ.เชียงราย ยินยอม แต่ต้องทำตามระเบียบของกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ รายละเอียดทั้งหมดทางอธิบดีกรมปศุสัตว์จะมีการชี้แจงให้ทราบอีกครั้ง รวมทั้งจะมีการทำความเข้าใจกับกลุ่มพิทักษ์สัตว์ต่อไป