ถอด “มวย” จากโอลิมปิก คำเตือนไอบ้าทำงานไม่โปร่งใส

วันนี้ (5 ก.พ.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โทมัส บัค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือ ไอโอซี ออกมาเตือน สหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ หรือ ไอบ้า ให้แก้ไขปัญหาเรื่องการเงิน ที่ปัจจุบันมีบัญชีติดลบตั้งแต่สมัย ชิง กั๊วะ วู ซึ่งเป็นหนี้อยู่กว่า 500 ล้านบาท รวมถึงปัญหาการตัดสินที่ไม่เป็นธรรม โดยหากแก้ไขปัญหาทั้งสองประเด็นนี้ไม่ได้ ไอโอซี อาจพิจารณาถอดมวยสากลสมัครเล่นออกจากโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทีมกำปั้นไทยและวงการมวยสากลสมัครเล่น

สำหรับกีฬามวยสากลสมัครเล่น มีปัญหาเรื่องของการตัดสินจนนำไปสู่กระแสข่าวจะถูกถอดออกจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์มาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ยุคของ อัน วา ชอร์ดี้ ประธานไอบ้า ชาวปากีสถาน ที่บริหารงานมากว่า 20 ปี ท่ามกลางปัญหาความไม่โปร่งใสในการตัดสิน แต่ไอโอซี ก็ยังไม่ตัดสินใจลงดาบ เพียงแค่ลงโทษ โดยการไม่ให้เงินสนับสนุนและทำการตักเตือนเท่านั้น

ปัจจุบันไอบ้า มีกอฟูร์ รัคคิมอฟ ชาวอุซเบกิสถาน รักษาการประธาน โดยเขาจะต้องเคลียร์ปัญหาการเงินเป็นอันดับแรก เบื้องต้นเส้นตายอยู่ในเดือนเม.ย.นี้ ที่จะต้องรายงานสถานการณ์การเงินกับไอโอซี

ขณะที่การตัดสินที่ไม่เป็นธรรมของไอบ้ายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 ริโอ เดอ จาเนโร นักชกที่้ชื่อ วลาดิเมียร์ นิกิติน จากรัสเซีย ที่เอาชนะคะแนนฉัตร์ชัย บุตรดี ของไทยอย่างไม่เป็นที่พอใจสำหรับผู้ชมนัก จนมาถึงการแข่งขันในรอบก่อนรองชนะเลิศที่ ไมเคิล คอนแลน นักชกรุ่นแบนตัมเวท ทีมชาติไอร์แลนด์ เดินไล่ถล่ม วลาดิเมียร์ นิกิติน แต่กลับถูกตัดสินว่าแพ้แบบค้านสายตาสื่อทั่วโลก แม้ในครั้งนี้ไอบ้าจะได้รับแรงกดดันอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบ เหตุการณ์นี้่เป็นการตกย้ำว่ามีการใช้อำนาจจากคนบางกลกุ่มในไอบ้าทั้งในการประกบคู่ และควบคุมการตัดสิน

ทั้งนี้มีรายงานว่า ในการแข่งขันโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ สำนักข่าว บีบีซี ก็เคยออกมาเปิดโปงไอบ้า โดยอ้างว่าไอบ้ารับเงินจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากอาเซอร์ไบจัน ซึ่งเป็นการซื้อเหรียญรางวัลล่วงหน้า