วันนี้ (6 ก.พ.2560) นางศิริวัลย์ แก้วมูลเนียม รองอธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กรมสรรพากร มีเครื่องอีดีซีให้บริการชำระภาษีอากร ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมเพียง 82 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่จากความร่วมมือนี้ จะติดตั้งทั่วประเทศรวมกว่า 3 พันเครื่อง และให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีผู้ชำระภาษีหนาแน่น
นางศิริวัลย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีบุคคลธรรมดา ประมาณ 5-6 แสนคน จากจำนวนผู้ต้องยื่นทั้งหมด 11 ล้านคน คาดว่า ผู้เสียภาษีอาจอยู่ระหว่างรอเอกสารหลักฐานใบเสร็จชำระเบี้ยประกันสุขภาพ ซึ่งเป็น 1 ในรายการลดหย่อนภาษีรายการใหม่ ประกอบกับสิทธิลดหย่อนภาษีรายการอื่นๆ ตามนโยบายของรัฐ เช่น ช็อปช่วยชาติ น้ำท่วม รวมไม่น้อยกว่า 18 รายการ รวมถึงการปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาแบบใหม่ อาจกระทบการจัดเก็บรายได้ ประมาณ 2-3 พันล้านบาท และมียอดผู้ได้รับเงินคืนภาษีเพิ่มขึ้น ประมาณร้อยละ 25 หรือประมาณ 4 ล้านคน จากยอดผู้เข้าข่ายเสียภาษีทั้งหมด 6-7 ล้านคน
รองอธิบดีกรมสรรพากร กล่าวอีกว่า กรมสรรพากร อยู่ระหว่างรับฟังความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลรัษฎากร เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-บิซิเนส ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการให้บริการในต่างประเทศ โดยแยกประเด็นการยกเลิก ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้า มูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท ที่จัดส่งทางไปรษณีย์ ออกจากร่างกฎหมายที่รับฟังครั้งก่อน แล้วไม่ผ่าน ทั้งนี้จะเปิดรับฟังความเห็น ถึงวันที่ 9 ก.พ.นี้