นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีรถเมล์เอ็นจีวี 7-8 คันของบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) นำเข้าและเตรียมส่งมอบให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ในฐานะเจ้าของพื้นที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดหรือซีซีทีวีโดยละเอียด เพื่อหาข้อเท็จจริงให้ได้
นอกจากนี้ ยังกำชับผู้บริหาร ขสมก.ดูรายละเอียดการตรวจรับรถเดือนมีนาคม 2561 ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสัญญา ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงคมนาคมยังไม่อยากสรุปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีหรือไม่ โดยต้องไปติดตามผลการสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง
ขณะที่นายกริน ชยวิสุทธิ์ ผู้จัดการโครงการ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับรถที่ถูกทุบทำลายมาถึงท่าเรือแหลมฉบังวันที่ 23 ก.พ. โดยการท่าเรือต้องเป็นผู้ตรวจรับก่อนขนย้ายรถขึ้นฝั่ง ซึ่งการท่าเรือไม่ได้รายงานว่าพบความเสียหายหรือความผิดปกติใดๆ แต่เมื่อ ช ทวี เข้าไปตรวจรับรถวันที่ 24 ก.พ. พบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น จึงคาดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นคืนวันที่ 23 ก.พ.ต่อเนื่องถึงเช้ามืดวันที่ 24 ก.พ.
บริษัทฯ จึงอยู่ระหว่างรอเอกสารยืนยันจากบริษัทเดินเรือว่ารถเมล์มีความเสียหายก่อนส่งถึงท่าเรือแหลมฉบังหรือไม่ เพราะถ้าเกิดความเสียหายจากการขนส่งทางเรือ ทางเรือและประกันภัยต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยบริษัทฯ จะนำรายงานการขนส่งทางเรือและรายงานการตรวจรับรถเพื่อนำไปแจ้งความในวันนี้ (26 ก.พ.2561) แต่เบื้องต้นเชื่อว่าความเสียหายไม่ได้เกิดในขั้นตอนการขนส่งทางเรือ
สำหรับโครงการจัดซื้อรถเม็ลเอ็นจีวี พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษา 489 คัน ระยะเวลา 10 ปี มูลค่า 4,261 ล้านบาท เป็นโครงการที่กิจการร่วมค้า บริษัท ช ทวี และบริษัทสแกนอินเตอร์ เป็นผู้ชนะการประมูลและได้เซ็นสัญญาไปเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2560
ขณะนี้โรงงานในประเทศจีนทยอยส่งรถโดยสารมาแล้ว 20 คันและนำออกจากท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อไปติดตั้งระบบปรับอากาศ เกียร์ ระบบก๊าซและเครื่องยนต์ ที่โรงงานในพื้นที่บ้านมาบเอียง ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อนทยอยส่งให้ ขสมก.ตรวจรับในช่วงเดือนมีนาคม 2561 โดยโรงงานจะทยอยส่งรถโดยสารจากประเทศจีนเดือนละ 100 คัน จนครบ 489 คัน และจะสามารถติดตั้งอุปกรณ์พร้อมส่งมอบให้กับ ขสมก.ภายในวันที่ 26 มิ.ย.2561