วันนี้(1 มี.ค.) ไทยพีบีเอส ตรวจสอบปัญหาที่ชาวต.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ร้องเรียนว่าป็นเวลานานกว่า 5 ปีที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสนามกีฬา มูลค่ากว่า 13 ล้านบาทได้ และยังกลายเป็นสถานที่เสื่อมโทรม ที่มีวัยรุ่นเข้าไปมั่วสุม
จากการตรวจสอบพบว่า แม้จะใช้งบประมาณมากถึง 13 ล้านบาท เพื่อสร้างสนามกีฬาในเขตเทศบาลต.บางคล้า แต่ปรากฏว่าสนามกีฬาแห่งนี้กลับใช้ไม่ได้จริง และกลายเป็นที่รกร้าง
สนามฟุตบอลมีหญ้ารกทึบ ลู่วิ่งที่เป็นดินลูกรังพังเสียหาย เช่นเดียวกับสนามฟุตซอลที่พื้นสนามหลุดลุ่ย ภายในห้องน้ำที่ทิ้งร้างกลายเป็นแหล่งมั่วสุมทั้งยาเสพติด และเพศ ของกลุ่มวัยรุ่น เพราะพบอุปกรณ์การเสพทิ้งไว้ เช่นเดียวกับถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว
ชาคริส พรหมดำรง ชาวตำบลบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สนามฟุตซอลเล่นไม่ได้ ยางที่ปูพื้นบางมากหลุดลอก และเมื่องัดดูในห้องน้ำ เจอว่าอุปกรณ์เสพยา และถุงยางอนามัย ตอนนี้กลายเป็นแหล่งมั่วสุม ไม่ใช้สนามกีฬา
ชาวตำบลบางคล้า ต้องการใช้สนามกีฬาแห่งนี้เพื่อออกกำลังกาย แต่ไม่สามารถใช้งานได้นานหลายปี หลังกรมพลศึกษาใช้งบประมาณประจำปี 2556 จำนวน 13 ล้านบาท เข้าก่อสร้างสนามกีฬาในพื้นที่สาธารณะ ในความดูแลของเทศบาลตำบลบางคล้า จึงร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทราให้ตรวจสอบ
ด้านนายศรายุทธ ศรีสุนทร รองนายกเทศมนตรีตำบลบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า กรมพลศึกษา เสนอมาว่าจะทำให้ดึข้น ของฟรีเราก็เห็นว่าดี และตกลงว่ามอบพื้นที่ให้เขาดูแล แต่พอลงมือทำแล้ว เราก็ไม่สามารถรับงานได้ เพราะสภาพที่เห็นอยู่ ไม่มีความเรียบร้อย และไม่เห็นแบบ จึงไม่สามารถรับงานได้
สอบถามไปยังกรมพลศึกษาแล้วหลายครั้ง เพื่อขอแบบการก่อสร้าง แต่นานกว่า 5 ปีมาแล้วยังไม่ได้รับมอบ และการตรวจสอบพื้นที่การก่อสร้างพบไม่ได้มาตร ฐาน จึงไม่สามารถรับการถ่ายโอนสนามกีฬามาอยู่ในความดูแลได้
ล่าสุดจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แจ้งให้กรมพลศึกษาเร่งปรับปรุงสนามกีฬาเทศบาลตำบลบางคล้าให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน โดยภายใน 1 เดือนต้องถ่ายโอนให้เทศบาลตำบลบางคล้าให้ได้