นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ว่า ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อร่วมกันผลักดันมาตรการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ หรือเมืองรอง ของกลุ่มนักท่องเที่ยววัยเกษียณอายุ โดยเฉพาะกลุ่มคนผู้สูงอายุที่มีศักยภาพที่มีอายุตั้งแต่ 55-70 ปี หรือ กลุ่มซิลเวอร์เอจ ซึ่งคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีเงินเก็บและมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวต่อครั้งสูง โดยคาดว่าจะผลักดันมาตรการเร็วๆนี้
การประชุมครั้งนี้ได้ขอให้กรมสรรพากรไปคิดรูปแบบออกมาแล้วให้ ททท. ไปคุยคือใครที่พ้นการเกษียณแล้ว ก็ให้เข้ามาท่องเที่ยวที่ ททท.จะจัดแพ็กเกจไว้ให้ โดยดูว่ามีส่วนลดอะไรให้บ้าง มีโรงแรมหรืออาหารตรงไหน ส่วนลูกหลานอยากพาเที่ยวก็ให้เอาค่าใช้จ่ายไปหักลดหย่อนภาษีได้
จากข้อมูลจำนวนประชากรปี 60 ประเทศไทยมีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 66 ล้านคน ในจำนวนนี้มีประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป จำนวน 14,460,000 คน คิดเป็นร้อยละ 22 ของจำนวนประชากร โดยเป็นกลุ่มซิลเวอร์เอจ 10,400,000 คน เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ตั้งแต่ 45,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป มีจำนวนประมาณ 350,000 คน ใช้จ่ายท่องเที่ยวต่อทริป 5,197 บาท สูงกว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของคนไทยกว่า 2 เท่า หรือใช้จ่ายเฉลี่ย 2,525 บาท
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท.กำลังจัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยวเพื่อสนับสนุนคนกลุ่มดังกล่าว แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกซิลเวอร์ แฟมิลี่ หรือ ทำดีพาบุพการีเที่ยว เป็นการท่องเที่ยวกับลูกหลาน เสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ลูกหลานจะได้รับสิทธิประโยชน์จูงใจในการทำความดี โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาลดหย่อนภาษีได้
กลุ่มที่ 2 คือ ซิลเวอร์โรมานซ์ หรือ เกี่ยวก้อยวัยยังหวาน ท่องเที่ยวกันสองคนตายาย โดยจะจัดแพ็กเกจที่เหมาะสมเพื่อร่วมระลึกถึงโอกาสสำคัญต่าง ๆ เช่น วันเกิด วันครบรอบแต่งงาน
และกลุ่มสุดท้าย ซิลเวอร์ เอาติ้ง หรือ วันวานยังเก๋าอยู่ ท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนตามรูปแบบการท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ รวมถึงการทำกิจกรรมอาสาสมัคร หรือสร้างสาธารณประโยชน์ร่วมกัน