เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สนามหลวง ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ว่า กรมศิลปากรได้รื้อถอนพระเมรุมาศคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 80 คาดว่าจะส่งพื้นที่คืนให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อปรับภูมิทัศน์ภายในเดือน เม.ย.นี้
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีแผนปรับพื้นที่ทั้งหมด โดยปรับปรุงทางเดินซ่อมสายไฟฟ้าและสายสาธารณูปโภค ระบบน้ำสปริงเกอร์ ซึ่งของบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาลจำนวน 141 ล้านบาท หลังจากได้ผู้รับเหมาคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 90 วัน หรือจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้
ส่วนนิทรรศการที่เคยจัดให้ประชาชนได้ชมบริเวณอาคารประกอบพระเมรุมาศ ได้ย้ายไปเก็บรักษาไว้ตามแผนงาน โดยหนึ่งในนทรรศการดังกล่าว คือ นิทรรศการ "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์" ที่เคยจัดแสดง ณ พระที่นั่งทรงธรรม เมื่อจบนิทรรศการ ณ ท้องสนามหลวงแล้ว
กรมศิลปากรได้มอบบอร์ดนิทรรศการทั้งชุดให้กับกรมแพทย์ทหารบกและมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท นำมาจัดแสดง ณ บริเวณโถงพระที่นั่งพิมานจักรี พระราชวังพญาไท เพื่อให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
สำหรับนิทรรศการ "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์ ณ พระราชวังพญาไท" ประกอบด้วย เนื้อหา สื่อมัลติมีเดีย และสิ่งของจัดแสดงบางส่วน แบ่งออกเป็น 5 โซน คือ โซนที่ 1 เมื่อเสด็จอวตาร โซนที่ 2 รัชกาลที่ร่มเย็นนำเสนอเรื่องราว "อุปกรณ์ทรงงาน" ที่พระองค์ใช้ใน การพัฒนาประเทศ โซนที่ 3 เพ็ญพระราชธรรม นำเสนอเรื่องราวของธรรมิกมหาราชาผู้ทรงครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม เพื่อยังประโยชน์สุขแก่พสกนิกรผู้อาศัยใต้ร่มพระบารมี มีผลให้แผ่นดินไทยสงบร่มเย็นมายาวนานตลอด 70 ปี
โซนที่ 4 นำพระราชไมตรี นำเสนอการทรงงานด้านการต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และโซนที่ 5 พระจักรีนิวัตฟ้า นิทรรศการ "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์ ณ พระราชวังพญาไท" เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย