แมนฯยู ทุบแมนฯซิตี้ 3-2 คว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์
การแข่งขันคอมมูนิตี้ชิลด์ นัดนี้เล่นกันที่สนามเวมบลีย์ เป็นการพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก ทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เอฟเอคัพ โดยนาทีที่ 38 แมนฯซิตี้ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการเปิดฟรีคิกเข้ามาของดาวิด ซิลบา และเป็นโจลีออน เลสคอตต์ ขึ้นโหม่งตุงตาข่าย จากนั้นนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกแมนฯซิตี้หนีไปเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของดาวิด เด เคีย ผู้รักษาประตูตัวใหม่ ที่พุ่งตัวรับลูกช้า จนทำให้ลูกยิงไกลกว่า 30 หลาของเอดิน เซโก้ กองหน้าทีมชาติบอสเนียพุ่งเข้าประตูไป
เริ่มครึ่งหลัง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนฯยู แก้เกมเปลี่ยนผู้เล่นทีเดียว 3 คน โดยส่งทอม เคลฟเวอรี่ย์, ฟิล โจนส์ และจอห์นนี่ อีแวนส์ ลงเล่นแทนเนมานย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และไมเคิล คาร์ริค และมาตีไข่แตกไล่มา 2-1 จากการยิงของคริส สมอลลิ่ง กองหลังดาวรุ่งในนาทีที่ 52 ถัดจากนั้น 6 นาที แมนฯยูตีเสมอเป็น 2-2 จากการประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยม ก่อนบอลจะมาเข้าทางนานี่ยิงเข้าประตูไป
เกมทำท่าว่าจะจบด้วยการเสมอกัน และต้องไปดวลจุดโทษหาผู้ชนะ แต่ปรากฎว่าในช่วงทดเวลา แมนฯยูอาศัยการโต้กลับ และเป็นแวงซอง กอมปานี ที่พลาดตรงกลางสนาม ก่อนจะถูกนานี่ฉกบอลหลุดเดี่ยวไปลากหลบโจ ฮาร์ท ก่อนจะยิงเข้าประตูโล่งๆให้แมนฯยู พลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ แมนฯซิตี้ได้อย่างเหลือเชื่อ 3-2 พร้อมกับคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชีลด์เป็นสมัยที่ 19 เอาฤกษ์เอาชัยก่อนประเดิมสนามป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกในสัปดาห์หน้า
ส่วนการแข่งขันฟุตบอลลีกเนเธอร์แลนด์เป็นการพบกันระหว่าง อาแจ๊กซ์ แชมป์เก่า บุกไปเยือน เดอ กราฟชาฟเกมผ่านมา 15 นาทีเป็นเดอ กราฟชาฟที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากการโหม่งของเท็ด ฟาน เดอ พาเวิร์ต แต่ถัดจากนั้น 7 นาที อาแจ๊กซ์ก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จจากการซ้ำลูกยิงของมิราเล็ม ซูเลมานี่ ต่อมานาทีที่ 31 อาแจ๊กซ์ขยับแซงขึ้นนำ 2-1 จากการยิงของเดิร์ก บอร์ริคเตอร์ จากนั้นนาทีที่ 61 อาแจ๊กซ์หนีไปเป็น 3-1 จากการหลุดเข้าไปยิงของซูเลมานี่ และเป็นประตูที่สองของเขาในนัดนี้ ก่อนที่ธีโอ แยนเซ่น จะมายิงฟรีคิกเป็นประตูปิดท้ายให้อาแจ๊กซ์ บุกมาถล่ม เดอ กราฟชาฟขาดลอย 4-1 ประเดิมการป้องกันแชมป์ได้อย่างสวยงาม
ขณะที่เอแซด อัคล์มาร์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของพีเอสวี ไอน์ดโฮเฟ่น เกมผ่านมา 26 นาที อัคล์มาร์ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการวอลเลย์ของมาร์เท่น มาร์แตงส์ ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที อัลค์มาร์หนีไปเป็น 2-0 จากการยิงไกลของของนิค เวียร์เกเวอร์ ช่วงทดเวลาครึ่งแรก ไอน์ดโฮเฟ่นไล่มา 2-1 จากการยิงของดรายส์ เมอร์เท่นส์ แต่ก่อนหมดเวลา 10 นาที โจซี่ อัลตอดอเร่ กองหน้าทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมก็มาโหม่งประตูย้ำชัยชนะให้อัลค์มาร์ ชนะ ไอน์ดโฮเฟ่น 3-1
ด้านทเวนเต้ บุกไปเอาชนะเอ็นเอซี เบรด้า 1-0 โดยได้ประตูชัยจากการยิงจุดโทษของมาร์ค ยันโก้ ในนาทีที่ 27