ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุเพลิงไหม้อาคารราชเทวีอะพาร์ตเมนต์ ซอยเพชรบุรี 18 เมื่อวานนี้ (3เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุที่ชั้น 12 เป็นนักเรียนชั้นม้ธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่จากครอบครัวมาใช้ชีวิตในกรุงเทพเพียงลำพัง เพื่อเดินตามความฝันที่อยากจะเป็นแพทย์ ความฝันของเขา อนาคตของครอบครัวจบลงไปพร้อมกับเหตุการณ์ และถูกแทนที่ด้วยความเศร้าเสียใจ
วันนี้(4 เม.ย.2561) ครอบครัวนายพีรณัฐ อินวกูล นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเตรียมอุดม ศึกษา ย่านปทุมวัน ที่เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ราชเทวีอะพาร์ตเมนต์เข้ารับศพที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศล
บิดาผู้เสียชีวิตเดินทางจากจังหวัดอุดรธานี มารับศพลูกชาย พร้อมเปิดเผยว่า จะนำร่างลูกชายกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดงสวอง จ.ลพบุรี และตั้งใจว่าจะฌาปนกิจในวันที่ 7 เม.ย.นี้ก่อนกลับไปที่จังหวัดลพบุรีครอบครัวได้นำร่างนายพีรณัฐ กลับไปที่ออะพาร์ตเมนต์อีกรอบ พร้อมพระเพื่อทำพิธีเชิญวิญญาณตามความเชื่อ
ลูกชายมีความฝันอยากเป็นหมอ จึงตั้งใจสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และครอบครัวก็อนุญาตให้เข้าพักที่อะพาร์ตเมนต์แห่งนี้เพียงคนเดียว เพราะต้องการให้ลูกชายช่วยเหลือตัวเองได้
ร.อ.ก้องกังวาฬ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาลูกชายเป็นที่รักของทุกคน ตั้งใจเรียน ส่วนตัวพูดคุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายเมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า น้องจะเดินทางกลับบ้านจังหวัดลพบุรี ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ เพื่อเล่นน้ำสงกรานต์กับที่คนในครอบครัว แต่มาเกิดเหตุครั้งนี้เสียก่อน
ยังปิดอาคารไฟไหม้ตรวจหาหลักฐานเพิ่ม
ขณะที่กรุงเทพมหานครและสำนักงานเขตราชเทวี ยังติดประกาศห้ามใช้พื้นที่อาคารราชเทวีอะพาร์ตเมนต์ ที่เกิดเหตุไฟไหม้ และห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าอาคาร ส่วนผู้พักอาศัยอนุญาตให้เข้าไปเก็บทรัพย์สินของมีค่าบางชั้นที่สามารถเข้าไปได้ส่วนที่พักชั่วคราวสำนักงานเขตได้จัดหาห้องพักใกล้จุดเกิดเหตุให้พักไปก่อน
พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจพื้นที่จุดต้นเพลิงหาสาเหตุไฟไหม้ และหลักฐานอีกรอบ พบต้นเพลิงอยู่ที่ห้องควบคุมสายไฟชั้น 6 เพราะมีความเสียหาย เป็นจำนวนมาก ก่อนจะลุกลามไปยังชั้นอื่นๆ
ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งการที่มีบุคคลทำให้เกิดประกายไฟ หรือเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะต้องนำหลักฐานในที่เกิดเหตุไปวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุมีบุคคลใดผ่านที่บริเวณชั้น 5 และชั้น 6
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตราชเทวี เผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพโดยรวมของอาคาร เพื่อนำไปใช้เป็นมาตรฐานการตรวจสอบอาคารหลังอื่นๆ ที่สร้างหลังปี 2535 เนื่องจากพื้นที่เขตราชเทวี มีอาคารสูงจำนวนมาก จึงต้องขอความร่วมมือเจ้าของอาคารในการแก้ไข โดยให้ผู้ประกอบการส่งรายงานข้อมูลกลับมาที่สำนักงานเขต
ผู้อำนวยการเขตยังตั้งข้อสังเกตว่า ช่องโหว่ในการดับเพลิงล่าช้ามาจาก 2 ประเด็น คือ โดยรอบอาคารที่เกิดเหตุ ไม่มีแหล่งน้ำ และหัวจ่ายดับเพลิง อยู่ห่างจุดเกิดเหตุ และภายในอาคาร ก็มีน้ำไม่เพียงพอในการระงับเหตุ ส่วนอุปกรณ์ดับเพลิงแบบถังผงเคมีพบถูกติดตั้งไว้ตามแบบที่กำหนด และพบว่าสามารถใช้งานได้ ส่วนประเด็นที่ 2 คือ สถานที่ตั้งของอาคารอยู่ภายในซอยคับแคบ ทำให้รถดับเพลิงเข้าพื้นที่ได้ยาก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
วสท.ชี้ควันไฟไม่ลอยตัวออกอาคารต้นเหตุคนเสียชีวิต 3 ศพ
ไฟไหม้อพาร์ตเมนต์ซอยเพชรบุรี 18 เบื้องต้นเสียชีวิต 3 คน