หลังจาก บก.ปปป. เปิดเผยรายชื่อพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป และวัดเข้าข่ายทุจริตเงินทอน 10 วัด ล็อตที่ 3 ก็ทำให้สังคมกำลังตั้งคำถามว่า อีก 7 วัดที่เหลือ จะเป็นวัดของกรรมการมหาเถระสมาคม หรือ วัดดังในกรุงเทพมหานครหรือไม่
วันนี้ (20 เม.ย.2561) ไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูง ว่า อีก 7 วัดที่เหลือ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งหมดได้เงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ปี 2556 พระภิกษุสามเณร 2,500,000 รูป 72 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยวัดละ 10 ล้านบาท
สำหรับวัดที่มีชื่อเกี่ยวข้องอีก 10 วัด คือ วัดพิชยญาติการาม จำนวน 10 ล้าน วัดเทพศิรินทราวาส 10 ล้านบาท วัดสุทัศนเทพวราราม 10 ล้านบาท วัดเทวราชกุญชร 10 ล้านบาท วัดบวรนิเวศวิหาร 5 ล้านบาท วัดสามพระยา 5 ล้านบาท วัดสัมพันธวงศาราม 2 ล้าน วัดอรุณราชวราราม 10 ล้าน และวัดกวิศราราม 10 ล้านบาท ทั้งหมดมีรายชื่อวัดตรงกับ บก.ปปป. แล้ว 3 วัด คือ วัดสามพระยา วัดสัมพันธวงศาราม
ส่วนวัดสระเกศฯ เป็นความผิดเข้าข่ายทุจริตเงินเผยแพร่ศาสนา การตรวจสอบการทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม เกิดขึ้นในขณะที่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เป็นผู้อำนวยการ พศ. และมีนายพนม ศรศิลป์ เป็น รองผู้อำนวยการ พศ. ซึ่งทั้ง 3 คน และนายบุญเลิศ โสภา ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนศึกษา เป็นผู้ต้องหาที่ ปปช.ชี้มูลความผิดร่วมกันทุจริตเงินทอนวัด