พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการป่าในเมือง จ.ระยอง “มหัศจรรย์ป่าชายเลน ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส” ต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ผู้บริหารหน่วยงานท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม
อธิบดี ทช. กล่าวว่า โครงการป่าในเมือง จ.ระยอง “มหัศจรรย์ป่าชายเลน ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส” ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนประแสและป่าพังราด อยู่ในเขตอนุรักษ์ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี 1,000 ไร่ โดยเป็นแหล่งที่มีป่าชายเลนขนาดใหญ่ที่สุดใน จ.ระยอง ครอบคลุมพื้นที่ 6,000 ไร่
สำหรับทุ่งโปรงทองมีความสวยงามอย่างมาก ต้นโปรงใบสีเขียวเหลืองอ่อนที่แทรกออกเป็นพุ่มหนาแน่นเต็มพื้นที่ 1,000 ไร่ เมื่อใบถูกแสงแดดจะสะท้อนให้เห็นเป็นสีทองอร่าม เต็มสะพรั่งทั่วท้องทุ่ง จนชาวบ้านเรียกบริเวณดังกล่าวว่าทุ่งโปรงทอง นอกจากนี้ บริเวณดังกล่าว ยังมีต้นโกงกาง ต้นแสม ตัดด้วยขอบสีเขียวเข้มเป็นพุ่มล้อมอยู่โดยรอบ มีสะพานเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถือเป็นจุดชมวิวที่สร้างความตื่นตาประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติป่าโปรงทอง
อธิบดี ทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ทช. ได้จัดทำสะพานทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน จัดทำศาลาเรียนรู้ พักผ่อน ป้ายสื่อความรู้ด้านระบบนิเวศป่าชายเลน จัดทำหอชมเรือนยอดไม้ ปรับปรุงทางเดินศึกษาธรรมชาติ จัดทำเรือนเพาะชำกล้าไม้ชุมชน จัดทำศูนย์เพาะพันธุ์ปู สัตว์น้ำป่าชายเลน และจัดทำป้ายสื่อความหมายพันธุ์ไม้ป่าชายเลนตลอดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าชายเลนในเมืองได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งรองรับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
สำหรับโครงการป่าในเมืองของ ทช. มี 24 แห่งใน 17 จังหวัด โดยเปิดไปแล้ว 5 แห่ง คือ ป่าในเมืองพระเจดีย์กลางน้ำที่สวนสาธารณะโขดปอชุมชนเนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ป่าในเมืองบ้านปากกะแดะ ต.กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ป่าในเมืองบ้านแหลมโพธิ์-แหลมทราย ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ป่าในเมืองบ้านห้วยทรัพย์ ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และป่าในเมืองทุ่งโปรงทอง ต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง
ป่าในเมืองช่วยเรื่องเศรษฐกิจให้กับชุมชน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ป่าชายเลน มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบมากขึ้น โดยมีราชการ เอกชนและชุมชน เข้ามาร่วมกันดู ให้ป่าชายเลนทุ่งโปรงทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเป็นสมบัติของประชาชนที่ต้องช่วยกันรักษา
ขณะที่คนขับเรือนำเที่ยว บอกว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาศึกษาธรรมชาติที่ทุ่งโปรงทอง มีทั้งชาวไทย จีน ไต้หวัน และชาวยุโรป บางส่วนใช้บริการเรือชมธรรมชาติทุ่งโปรงทอง ขาไปราคาคนละ 60 บาท ไป-กลับคนละ 100 บาท สร้างรายได้ 10,000 บาทต่อเดือน