วันนี้ (27 เม.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายมุน แจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์ร่วมกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือหลังการประชุมสุดยอดผู้นำสองเกาหลี
นายมูน แจอิน ประธานธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่า ผู้นำสองประเทศคาดหวังถึงสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และพร้อมจะร่วมมือทำให้เกิดขึ้นจริง แม้ก่อนหน้าจะมีความเจ็บปวดและความสูญเสียเกิดขึ้นแต่ ณ วันนี้จะแสดงให้เห็นว่าเรามีจุดประสงค์ร่วมกัน และคาดหวังทุกคนจะได้เห็นการระงับการทดลองนิวเคลียร์ และขอประกาศ ณ ที่นี้ว่าตอนนี้ทางเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีงาม และเป็นข้อตกลงร่วมกันที่สำคัญมากของ 2 ประเทศ
ผมขอบอกว่าจะไม่มีการขัดแย้งกัน หรือต่อสู้กันอีกแล้ว และเข้าสู่ยุคสันติภาพที่แท้จริง และผมขอรับรองเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคงของ 2 ประเทศและจะไม่มีการโจมตีทางการทหาร และจะพยายามร่วมกันเพื่อความสงบสุขของทั้ง 2 ประเทศ โดยจะติดต่อกันเรื่อยๆ เพื่อการรวมประเทศ
นอกจากนี้ มูน แจอิน ยังบอกว่า นี่เป็นก้าวแรกที่ 2 ประเทศร่วมมือกันเพื่อความสงบสุขของทั้ง 2 ประเทศ และเขามั้นใจว่าจะได้เห็นภาพการพบกันของครอบครัวทั้ง 2 ประเทศที่เคยถูกแยกจากกัน และคาดหวังว่าจะได้เห็นการพัฒนาของ 2 ประเทศที่งดงาม
ทั้งนี้ผมและผู้นำเกาหลีเหนือ จะเป็นตัวแทนเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อสันติภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ วันนี้ขอประกาศเป็นครั้งแรกที่จะร่วมมือกันเพื่อสันติภาพ และขอให้ทุกคนปรบมือต้อนรับผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ
ด้านคิม จองอึน กล่าวว่า ตอนนี้เป็นการประชุมสูงสุดของผู้นำทั้งสองประเทศ ขอขอบคุณที่ทำให้เกิดโอกาสในการร่วมมือกัน เป็นพี่น้อง แผ่นดินเดียวกัน ชนชาติเดียวกัน
ตอนนี้เราเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันที่ตัดกันไม่ขาด เราไม่ใช่กลุ่มคนสองกลุ่มหรือสองชนชาติที่ต้องมาสู้รบกัน เราจะเปิดประตูสู่หนทางที่เราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและสงบสันติ
คิม จองอึน กล่าวต่อว่า ได้คุยกันอย่างจริงจังกับประธานาธิบดีมุนเรียบร้อยแล้วในการสานสัมพันธ์กันของสองประเทศ และพูดคุยถึงปัญหาระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ และจะพัฒนาความสัมพันธ์ของกันและกันให้มากขึ้น โดยการที่เลือกพันมุนจอมเป็นสถานที่ลงนามร่วมกัน เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนเส้นคั่นกลางระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ ต่อไปจะมีการเจรจาร่วมกันและคำนึงถึงประชาชนก่อน และจะทำให้เวลานี้เป็นประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของทั้งสองประเทศ
ตอนนี้เป็นยุคที่เราจะต้องพัฒนาไปร่วมกัน ในอนาคตไม่มีทางที่จะไม่เกิดการแบ่งแยกหรือปัญหาใดๆ เลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องช่วยกันแก้ปัญหาร่วมกันไปเรื่อยๆ
พร้อมระบุว่า ขณะนี้ขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อไปยังความฝันและความหวังที่เราคาดหวังไว้ และหวังว่าจะได้เห็นอนาคตที่สดใสที่เราวาดหวังไว้ร่วมกัน