วันนี้ (28 เม.ย.2561) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 32 ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า ที่ประชุมให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลัก คือ 1. ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของภูมิภาค 2.ส่งเสริมกิจกรรมด้านเศรษฐกิจเพื่อทำให้เกิดความกินดีอยู่ดีภายในภูมิภาค และ 3.การร่วมมือกันป้องกันภัยทางไซเบอร์ นอกจากนี้ ที่ประชุมอาเซียนได้ออกแถลงการณ์ยินดีกับประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่ความสัมพันธ์พัฒนามากขึ้น รวมทั้งพร้อมสนับสนุนให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิปดีสหรัฐอเมริกาและนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือได้พูดคุยกัน เพื่อให้เกิดสันติภาพภายในภูมิภาคนี้
ขณะที่ประเทศไทยก็ยินดีกับเรื่องนี้และได้มีแถลงการณ์ออกมา ระบุว่า ไทยยินดีต่อการพบหารือครั้งนี้ ซึ่งเป็นการหารือระดับผู้นำของ 2 เกาหลีเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี การประชุมครั้งประวัติศาสตร์นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันอย่างต่อเนื่องและความพยายามของทุกฝ่าย โดยเฉพาะเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลีอย่างสันติ
รวมทั้งการประชุมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากับผู้นำเกาหลีเหนือ จะนำไปสู่การปราศจากอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีในที่สุด ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสันติภาพและเสถียรภาพรวมทั้งบรรยากาศของความร่วมมือกันในภูมิภาคเป็นอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์ของประชาชนเกาหลีและภูมิภาคโดยรวม ไทยพร้อมให้การสนับสนุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน
"ไทยยินดีกับ 2 เกาหลี เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับโลก และสร้างความมั่นใจว่าข่าวที่ไม่ดีต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้จะไม่เกิดขึ้น และจะทำให้นานาชาติมั่นใจภูมิภาคนี้มากขึ้น"
นายดอน กล่าวด้วยว่า การประชุมครั้งต่อไป อาเซียนสัมมิต จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยจะมีผู้นำชาติมหาอำนาจเข้าร่วมด้วย ส่วนปีหน้า จะเป็นประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน พร้อมยืนยันไม่มีผู้นำประเทศไหน ถามถึงการเมืองภายในประเทศ หรือโรดแมปการเลือกตั้งของไทย