วันนี้ (2 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านกว่า 500 คนจากขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) เข้าร่วมจัดกิจกรรมติดตามการแก้ไขปัญหารัฐบาล นัดรวมตัวที่ด้านหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น พร้อมทั้งส่งตัวแทนจำนวน 5 คนเข้าไปยื่นหนังสือกับตัวแทนของยูเอ็น เพื่อให้ยูเอ็น เป็นตัวแทนของประชาชนกลุ่มพีมูฟ ประสานงานไปยังหน่วยงานราชการต่าง ที่มีส่วนในการแก้ไขปัญหาของกลุ่มต่างๆ ที่เรียกร้องมานานนับ 10 ปี แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้กลุ่มพีมูฟ ยังได้ตั้งขบวน เพื่อเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย เพื่อทวงถามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ 5 ประเด็น ได้แก่ ให้ดำเนินการตามมติของคณะกรรมการชาวเล ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวเล ที่ถูกบุกรุกที่ดินและพื้นที่ทางวัฒนธรรม ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในกรณีที่ดินสาธารณะ การเดินหน้าโฉนดชุมชน การตั้งคณะกรรมการธนาคารที่ดิน แก้ปัญหาในพื้นที่นำร่อง และให้หยุดนโยบายทวงคืนผืนป่า และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
ขณะที่มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) เวลาประมาณ 18.00 น. รถบัส 2 คันที่ชาวบ้านจ.เชียงใหม่ และจ.ลำพูน เช่าเพื่อใช้เพื่อเดินทางมา กทม. ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง มลฑลทหารบกที่ 33 ด่านแม่ทา จ.ลำพูน เรียกตัวคนขับรถบัส 2 คนลงจากรถ และหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จนชาวบ้านกว่า 50 กว่าคนลงมาสอบถามหาคนขับรถ แต่เจ้าหน้าที่กลับอ้างว่าไม่ทราบว่าหายไปไหน กุญแจรถบัสก็ถูกยึด กระทั่ง 22.00 น.มีรายงานว่า ชาวบ้านยังถูกกักตัวอยู่ที่เดิมและไม่ได้กินข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมาเครือข่ายกลุ่มพีมูฟ เข้ายื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอให้รัฐบาลจัดประชุมพิจารณาการแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงนัดรวมตัวในวันนี้ และมีเป้าหมายที่อยากจะเจอกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากยังไม่ได้รับการแก้ไขจะรวมตัวกันอยู่ที่ กทม.ต่อไป