ภาพถ่ายทางอากาศเหนือบ้านพักข้าราชการตุลาการ แสดงให้เห็นการเปิดหน้าดินบริเวณจุดก่อสร้าง ซึ่งอาจเป็นอุปสรรค์ในการฟื้นฟูและปลูกต้นไม้
นายจตุภูมิ มีเสนา เจ้าหน้าที่วิจัยภาคสนาม หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำในระยะสั้น คือ ความชัดเจน การรื้อถอนหรือย้ายสิ่งปลูกสร้าง หลังจากนั้นจะสามารถฟื้นฟูดินที่ถูกทำลายไปได้ ก่อนนำต้นไม้ที่เหมาะสมในรูปแบบไม้จากป่าเต็งรังหรือไม้ผลัดใบมาปลูก เนื่องจากแนวบ้านของป่าบริเวณบ้านพักมีพันธุ์ไม้ไม่น้อยกว่า 200 ชนิด และคาดว่าอาจจะใช้เวลาไม่กว่า 20 ปีขึ้นไป หากจะคืนสภาพให้เป็นป่าเช่นเดิม
นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า การดำเนินการขณะนี้หลายภาคส่วนได้ร่วมมือกันทำงาน เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาเป็นป่า โดยในเดือนนี้จะมีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมมือกันฟื้นฟู ส่วนของการปลูกต้นไม้ขณะนี้รอความชัดเจนของทีมสำรวจอีกครั้ง เนื่องจากยังเข้าไปสำรวจไม่ได้
วันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ธนารักษ์เชียงใหม่ เตรียมเข้ารังวัดพื้นที่ยึดตามแนวป่าดั้งเดิมและสัปดาห์หน้า ทหารกองทัพภาคที่ 3 จะเปิดเส้นทางเข้าเพื่อให้เข้าไปดำเนินการฟื้นฟูได้
ขณะเดียวกันสำนักงานธนารักษ์เชียงใหม่ เตรียมเสนอให้อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ทำเรื่องใช้ประโยชน์โดยไม่ต้องรอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติและปลายเดือน พ.ค.นี้
ขณะที่ กองทัพภาคที่ 3 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชน เตรียมปลูกป่าในพื้นที่บริเวณบ้านพักตุลาการซึ่งเป็นหนึ่งในแผนฟื้นฟูระยะเร่งด่วน ก่อนสำนักงานศาลยุติธรรมจะส่งคืนพื้นที่ให้กับสำนักงานธนารักษ์เชียงใหม่ และรวบรวมข้อมูลให้คณะรัฐมนตรีพิจารณากำหนดเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ