วันนี้(12 พ.ค.2561) นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูป่าพื้นที่โครงการบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ว่าเนื่องจากพื้นที่มีการเปิดหน้าดินภูเขา เพื่อก่อสร้างบ้านพัก และอาคารต่างๆ ทำให้พื้นที่นี้เสี่ยงต่อดินถล่ม ดังนั้นถ้าฟื้นฟูเป็นป่าได้ก็จะดี และวิธีการดีที่สุดคือให้ธรรมชาติฟื้นฟู รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกบางส่วน เอาดินไปคลุมถมเพิ่ม ซึ่งโดยหลักการบริเวณนี้ไม่เหมาะกับการทำบ้านพัก ไม่ใช่จุดที่เหมาะสมอยู่แล้ว ทัศนะน่าเกลียดโดยรอบที่เป็นป่า
ไม่เห็นด้วยที่จะนำต้นไม้ใหญ่มาปลูกซ่อม แนวทางให้ธรรมชาติฟื้นฟูตัวเอง นั่นดีที่สุดเพราะบริเวณนี้ใกล้กับดอยสุเทพ และพื้นที่ทางน้ำไหลผ่านมา ในดินมีธนาคารเมล็ดพันธุ์ของพืชเดิม และมาใหม่ที่ไหลตามน้ำลงมาอีกมหาศาล ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องไปปลูกโดยมีงบประมาณลงไป
นายศศิน กล่าวว่า มีตัวอย่างที่ธรรมชาติฟื้นฟูตัวเองโดยไม่ใช้การปลูกป่าทั้งในเขตอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่เขาไม่ปลูกป่า แต่ป่าฟื้นตัวเอง หรือกรณีที่ชัดเจนถนนแถวคลองลาน-อุ้มผาง เมื่อก่อนเคยตัดถนนไปครึ่งทาง เมื่อยุติโครงการต้นไม้ก็ขึ้นเองตอนนี้มองไม่เห็นถนน ต้นไม้ขึ้นคลุมแล้วทั้งที่มีลาดยางแล้ว
นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร
ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวอีกว่า หลังจากนี้เมื่อมีการฟื้นฟูแล้วมันมีปัญหาว่าต่อไปจะให้ใครดูแล จะเป็นป่าชุมชน หรือเอาเป็นอุทยานแห่งชาติ เพราะตรงนี้ใกล้ดอยสุเทพ และกำหนดพื้นที่ให้เป็นโซนศึกษาธรรมชาติ แต่หากจัดการแบบที่ราชพัสดุแล้วทำอะไรที่ไม่ใช่ป่าจะมีปัญหาเรื่องการดูแลต่อไป เพราะเป็นพื้นที่ความขัดแย้งถ้ามอบให้กรมอุทยานฯดูแลก็อาจจะก็ง่าย หรือหากทำเป็นป่าชุมชนก็ต้องหาโมเดลร่วมกับชุมชน
ขณะที่มีรายงานว่า กรมป่าไม้ เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานต่างๆเข้าสำรวจสภาพดิน สภาพพื้นที่ รวมทั้งพันธุ์ไม้ดั้งเดิมก่อน เพื่อเตรียมสรุปต่อคณะกรรมการชุดใหญ่เกี่ยวกับแนวทางการฟื้นฟูป่าบ้านพักตุลาการ รวมทั้งต้องรับฟังความเห็นอย่างมีส่วนร่วมจากเครือข่ายชาวบ้านด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
อนาคตบ้านพักข้าราชการตุลาการ จ.เชียงใหม่
คาดใช้เวลา 20 ปี ฟื้นฟูป่าบ้านพักตุลาการ
"สุวพันธุ์" ถกแก้ปัญหาบ้านพักตุลาการ เบื้องต้นฟื้นฟูแนวเขตป่าเดิม