วันนี้ (14 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาประกาศพระราชกําหนด การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 เพื่อกํากับและการควบคุมการดําเนินกิจกรรมและการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มครองผู้ลงทุนและประชาชนที่เกี่ยวข้อง
สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายได้กำหนดการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ต่อประชาชน ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. และยังกำหนดโทษ กรณีสร้างความเสียหายแก่ประชาชน หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ โดยให้อำนาจคณะกรรมการ ก.ล.ต.เพิกถอนใบอนุญาต และกำหนดบทลงโทษทางอาญา กรณีผู้ใดเสนอขายโทเคนดิจิทัลโดยฝ่าฝืนหรือไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 เท่าของราคาขาย แต่ไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
และหากผู้ใดแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงแก่นักลงทุน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับเป็นเงินไม่เกิน 2 เท่าของราคาขายของโทเคนดิจิทัล แต่ต้องไม่น้อยกว่า 500,000 บาท รวมถึงหากประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 2-5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน และหากกรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลใด กระทําการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000-1,000,000 บาท
ขณะเดียวกัน ยังมีการประกาศ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยกำหนดให้ผู้ที่มีกำไรจากการถือ หรือครอบครองโทเคนดิจิทัล หรือการโอนคริปโทเคอร์เรนซี หรือโทเคนดิจิทัล ต้องเสียภาษีเงินได้ในอัตราภาษีร้อยละ 15