เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.2561) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกระแสข่าวการจัดซื้อดาวเทียมทีเออมูลค่า 91,000 ล้านบาทว่า เป็นเพียงการพูดคุยกันเท่านั้น และยังไม่มีการจัดซื้่อ แต่หากจะพิจารณาซื้อต้องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตรวจสอบก่อน ทั้งด้านความคุ้มค่าและคำนึงถึงงบประมาณที่มีอยู่ รวมถึงความต้องการของประชาชน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเสนอเข้ามา ทั้งนี้ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วในปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญมากกว่า คือความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการเฝ้าระวังการส่งต่อข้อมูลข่าวสาร โดยไม่มองเรื่องสิทธิเสรีภาพอย่างเดียว
ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ และ พล.อ.พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) กรณีลงนามจดหมาย 3 ฉบับกับบริษัทในสหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาดาวเทียมทีเออ มูลค่า 91,000 ล้านบาท อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการลงนามระหว่างประเทศ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พร้อมขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนคณะที่เดินทางไปศึกษาดูงานที่สหรัฐฯ โดยบริษัทเอกชนออกค่าใช้จ่ายให้ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายและระเบียบ ป.ป.ช.ที่ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเกิน 3,000 บาท
ด้าน พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.อ.ประจิน) ระบุว่า ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม จะแจ้งความดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณ ในฐานให้ข้อมูลที่เป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. และสร้างความเสียหายต่อการปฏิบัติหน้าที่ของรองนายกรัฐมนตรีและสร้างความสับสนต่อสังคม
ทั้งนี้ โครงการดาวเทียมทีเออ เป็นดาวเทียมสื่อสารเชิงพาณิชย์ และยังเป็นเพียงการศึกษาด้านเทคนิคโดยอนุกรรมการนโยบายอวกาศ กับ สทป.เท่านั้น ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ