นางณัฐณิชา พลภักดี ผู้เสียหายจากแชร์ลูกโซ่ลงทุนปลูกต้นหม่อนมัลเบอร์รี่ เปิดเผยว่า บริษัท ภูลำน้ำชี อินเตอร์เนชั่นแนล มาชักชวนให้ลงทุนปลูกต้นหม่อนมัลเบอร์รี่ โดยเปิดโครงการในปี 2559 ลงทุนปลูก 32,000 บาทต่อไร่ แบ่งเป็นต้นกล้าไร่ละ 400 ต้น และราคาต้นละ 80 บาท จะสร้างรายได้ประ มาณ 100,000 บาทต่อไร่ โดยจะรับประกันราคา 50 บาทต่อกิโลกรัม แต่จะรับซื้อผลผลิตเมื่อปลูกตั้งแต่ 50 ไร่ขึ้นไป ตั้งเป้าหมายมีพื้นที่เพาะปลูกจำนวน 10,000 ไร่ และเริ่มปลูกในปี 2560 และจะปิดโครงการในเดือนธันวาคม 2560
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการจัดโปรโมชั่นที่ 28,000 บาทต่อไร่ และ 25,000 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีเงิน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการลงทุนค่อนข้างสูง แต่บริษัทระบุว่าถ้าเงินไม่พอให้มาซื้อหุ้นบริษัทแทนที่ 38,000 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะนำเงิน 70% ไปเทรดสกุลเงินตราต่างประเทศ (ฟอเร็กซ์) อ้างว่าถ้าได้กำไรแล้วจะมีเงินมาลงทุนปลูกต้นหม่อน ส่วนอีก 30% แบ่งออกเป็น 10% นำไปเป็นค่าจัดการประชุม และอีก 20% จะเอาไปซื้อต้นพันธุ์หม่อนจาก จ.เชียงใหม่ มาชำไว้รอเกษตรกร เนื่องจากการปลูก 10,000 ไร่ ต้องใช้พันธุ์จำนวนมาก
ทั้งนี้ ได้เริ่มซื้อหุ้นบริษัทจำนวน 1 หุ้น ราคา 38,000 บาท โดยลงขันกับเพื่อนคนละ 19,000 บาท เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2559 เนื่องจากยังไม่มีเงินและไม่กล้าลงทุนปลูก หลังจากซื้อหุ้น 15 วัน ได้รับเงินปันผลกลับคืนมา 6,426 บาท เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม เห็นว่าได้เงินจริงและอย่างต่อเนื่อง จึงซื้อหุ้นเพิ่มในเดือนมิถุนายน และชักชวนญาติและเพื่อนด้วย ขณะที่ญาติและเพื่อนเมื่อเห็นว่าได้เงินจึงมาซื้อหุ้นบริษัทตามกันไป เนื่องจากอยากปลูกต้นหม่อนด้วย บอกกันแบบปากต่อปากด้วยจุดหมายจะมีเงินมาซื้อต้นหม่อนและถมที่ดินที่เป็นนา ซึ่งต้องใช้เงินประมาณ 500,000-600,000 บาท
นางณัฐณิชา กล่าวว่า ได้ซื้อหุ้นเพิ่มอีก 8 หุ้นในเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะตัดสินใจกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.ศรีสะเกษ ในเดือนสิงหาคม จำนวน 1,400,000 บาท ส่วนสามีกู้เงินมา 1,900,000 บาท เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับเงินปันผลจำนวนมาก ทั้งที่จากการลงทุนจำนวนมาก ได้ค่าคอมมิชชั่น ค่าแนะนำตัวเอง รวมไปถึงเงินค่าจับคู่ตามระบบไบนารี ที่บริษัทอ้างว่าระบบไบนารีเป็นแผนการตลาดของสหรัฐฯ และเติบโตที่สหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรเป็นเจ้าของกิจการร่วมกันกับเขา
หลังจากนั้น ยังคงได้รับเงินปันผลอย่างต่อเนื่องมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน บริษัทไม่จ่ายเงิน จึงได้โทรและไลน์ไปสอบถาม กลับได้รับคำตอบจากบริษัทว่าวงเงินมาก โดยประเทศไทยมีสมาชิกจำนวนมาก ทำให้ต้องทยอยโอนเงินและมีลิมิตการโอนออก จึงโอนเป็นจำนวนมากไม่ได้ จากนั้นล่าช้าไปจนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน จึงได้ทวงถามอีกครั้ง และสมาชิกโทรไปถามว่าได้เงินหรือยัง จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน ก็ยังไม่เรียบร้อยและยังได้เงินไม่ครบทุกคน จึงทวงถามไปเรื่อยๆ สุดท้าย บริษัทออกมาประกาศว่าไม่มีเงินจ่าย ขอปิดเฟส 1 คือการเทรดฟอเร็กซ์ และให้ทุกคนเอาเงินทุนที่เหลือมาแลกต้นหม่อน เงินมีเท่าไหร่ก็แลกต้นหม่อนเท่านั้น
เบื้องต้น ตนเองได้คำนวณว่าจะเอาเงินจากปิดเฟส 1 ไปแลกเป็นต้นหม่อน 50 ไร่ เป็นเงินกว่า 900,000 บาท โดยจะแบ่งเงินไปใช้หนี้และรับเป็นเงินคืน ซึ่งสมาชิกแต่ละคนจะรายงานความต้องการของตัวเองเข้าไปยังบริษัท แต่บริษัทประกาศอีกครั้งว่าที่ระบุว่าจะจ่ายเงินในวันที่ 27 มกราคม 2560 ขอเลื่อนไปเป็นเดือนพฤษภาคมแทน จึงเริ่มคิดน่าจะถูกหลอกแล้ว และยังไม่ถึงเดือนพฤษภาคม บริษัทออกประกาศว่าเนื่องจากสมาชิกบางกลุ่มไปแจ้งความจับ ทำให้ไม่มีเวลาไปทำงานและหาเงิน ต้องอยู่อย่างหลบซ่อน ซึ่งรู้สึกว่าเหมือนเป็นการยื้อเวลา จึงรวมตัวกันไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ จากนั้นไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และไปสิ้นสุดที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
สำหรับเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากแชร์ลูกโซ่ 117 คน และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 21 ล้านบาท เพราะว่าบริษัทหากินกับเกษตรกร และเกษตรกรก็ทุ่มสุดตัว จำนองรถยนต์ บ้าน และที่ดิน เนื่องจากหลงเชื่อบริษัทที่อ้างว่าลงทุนกับบริษัทแล้วจะสามารถปลดหนี้สินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ ถ้าอยากเป็นเศรษฐีให้มาทำงานกับบริษัท ทุกคนจะเป็นเศรษฐีทั้งหมด ปลูกข้าวไม่ได้เงิน มาปลูกต้นหม่อนมัลเบอร์รี่ให้บริษัท จะประกันราคา 50 บาท ซึ่งราคาข้าวไม่เคยถึง 50 บาทเลย
นางณัฐณิชา กล่าวว่า ลักษณะของแชร์ลูกโซ่จะเปิดเป็นแอปพลิเคขั่น ถ้าค้นหาในอินเทอร์เน็ตจะพบหน้าเว็บไซต์ แต่จะไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ ถ้าไม่ได้เป็นสมาชิก และจะให้ผลตอบแทนมาก การแนะนำจะได้ค่าแนะนำ ได้ค่าจับคู่ นี่คือลักษณะของแชร์ลูกโซ่ ถ้าใครมาบอกว่าไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ แต่ให้ผลตอบแทนเกินจริง อย่าไปหลงเชื่อ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว การลงทุน ช่วงแรกจะได้รับเงินปันผล แต่รับรองว่าได้ไม่นาน แม้ว่าใครจะมาบอกเรา แต่ถ้าทุกคนรู้จักป้องกันตัวเอง มีภูมิต้านทานในตัวเองว่าเงินเกิดจากการทำงานของเราเท่านั้น
ดังนั้น ถ้าคิดว่าจะเอาเงินไปให้เขาและให้เขาทำงานให้ ให้เงินทำงานแทน คนที่ได้เงินจากเรา คือสมาชิกที่อยู่ก่อนเรา แม้แต่ตัวเราที่ได้เงินก็คือเงินของเราและเงินของสมาชิกที่มาทีหลัง แต่ไม่ใช่เงินของบริษัท เมื่อบริษัทได้เงินและเพียงพอกับที่ตั้งเป้าหมายไว้ ก็จะปลีกตัวหายเข้ากลีบเมฆไป ถึงวันนั้น หนี้สินทุกอย่างจะตกอยู่กับเราแล้ว และคนที่เป็นแม่พิมพ์ของชาติ ก็จะเดือดร้อนลำบากมากเลย อยากขอฝากทุกคนว่าทำงานเถอะ ให้เหงื่อออกให้ได้เงิน ให้ได้ใช้แรงกาย มันสมองของตัวเอง ดีกว่าเอาเงินของเราไปฝากไว้กับคนอื่น เพราะเราไม่รู้ว่าบริษัทจดทะเบียนยังไง ไม่รู้เลยว่าคืออะไร
อ่านข่าวเพิ่มเติม
เปิดใจผู้เสียหายสูญ 6 ล้านถูกหลอกลงทุน "ฟอเร็กซ์" ปั้นมืออาชีพบริหารเงิน-เทรดให้
นักกฎหมายชี้ "แชร์ลูกโซ่" แค่โครงกระดูกที่เปลี่ยนโคเวอร์ใหม่
4 ปีแชร์ลูกโซ่หลอก 80,000 คน -ฌาปนกิจสงเคราะห์แชมป์ถูกร้อง
6 คำเตือนนักลงทุน "ฟอเร็กซ์" จากเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์
"ฟอเร็กซ์-ไบนารีออพชัน" ระบาดโซเชียล ล่อแมงเม่าออนไลน์
นักล่าเงินออนไลน์ชี้ "ไบนารีออพชัน" เล่นง่ายแต่เสี่ยงสูง
เปิดทริกนักเทรด “ฟอเร็กซ์พารวยได้ ต้องคุมความโลภ”
ชี้ "ฟอเร็กซ์-ไบนารีออพชัน" คล้ายบ่อนออนไลน์