วันนี้ (5 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นผู้ประสานงานให้ทีมนักดำน้ำจากประเทศอังกฤษทั้ง 3 คน มาร่วมในภารกิจค้นหาและกู้ภัย เดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อต้อนรับและส่งนายโรเบิร์ต ฮาร์เปอร์ กลับประเทศอังกฤษก่อน เพื่อไปพบแพทย์ตามนัด
ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ได้มอบประกาศนียบัตรแสดงความขอบคุณจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาให้กับนายฮาร์เปอร์ด้วย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของไทยที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อำนวยความสะดวกให้นายฮาร์เปอร์เมื่อเดินทางถึงอังกฤษแล้ว เนื่องจากนายฮาร์เปอร์มีอุปกรณ์การดำน้ำที่หนักถึง 50 กิโลกรัม ไปกับเครื่องบินด้วย
ทั้งนี้ นายชัยรัตน์ กลุ่มไหม ที่ทราบข่าวการเดินทางกลับของนายฮาร์เปอร์ ได้ตัดสินใจเดินทางมารอที่สนามบินสุวรรณภูมิพร้อมกับป้ายแสดงความขอบคุณที่เดินทางมาช่วยเหลือภารกิจในครั้งนี้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับปากว่าจะนำป้ายดังกล่าวไปมอบให้กับนายฮาร์เปอร์ด้วย
สำหรับนายฮาร์เปอร์ ซึ่งมีอายุถึง 70 ปีเศษ จำเป็นจะต้องกลับไปพบแพทย์ตามนัด จึงขอเดินทางกลับก่อน ส่วนนายริชาร์ด วิลเลียม สแตนตัน และนายจอห์น โวลันเธน 2 คนแรกที่พบกับเด็กทั้ง 13 คน ยังคงอยู่เพื่อวางแผนปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อช่วยทั้ง 13 ชีวิตต่อไป
ด้านนายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นเพื่อนกับตัวแทนนักดำน้ำ 3 คนจากสมาคมกู้ชีพผู้ติดอยู่ภายในถ้ำบริติช หรือ บีซีอาร์ซี องค์กรอิสระด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยภายในถ้ำของสหราชอาณาจักร ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส" เมื่อที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถึงกรณีนักดำน้ำชาวอังกฤษ 2 คน ดำน้ำค้นหาเจอทีมนักฟุตบอลเยาวชนหมูป่าก่อน โดยบอกว่า นายจอห์น โวลันเธน ซึ่งดำน้ำ นำทางมาก่อน กำลังอยู่ระหว่างการวางแนวเชือกตามแนวดินโคลนของผนังถ้ำ เพื่อให้นักดำน้ำ ซึ่งกำลังตามมารวมถึงนายริชาร์ด สแตนตัน และเจ้าหน้าที่หน่วยซีลของไทย ใช้เกาะเป็นเส้นทาง เพื่อไม่หลงทางหรือถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดพาไป
แต่แล้วเชือกของนายโวลันเธนหมดพอดี ทำให้เขาต้องโผล่พ้นผิวน้ำ และในวินาทีนั้นเอง นักดำน้ำจากอังกฤษพบกับทั้ง 13 คน ในอิริยาบถทั้งนั่งและยืนกำลังจ้องมองมาที่เขา และคาดว่ากลุ่มสมาชิกทีมหมูป่าน่าจะจับจ้องมาที่นายโวลันเธนแล้วระยะหนึ่ง โดยสังเกตจากไฟฉายที่เขาคาดไว้บนศีรษะ โดยนายโวลันเธน กล่าวว่า เขาดีใจมาก เช่นเดียวกับทั้ง 13 คน ซึ่งแสดงความดีใจและตื่นเต้นออกมาอย่างชัดเจน
ซึ่งเรื่องนี้นายอันสเวิร์ธ บอกด้วยว่า หากตอนนั้นเชือกของนายโวลันเธนสั้นกว่านี้อีกประมาณ 1 เมตรครึ่ง แน่นอนว่าเขาต้องเลี้ยวกลับก่อน และทั้ง 13 คน อาจต้องติดอยู่บนเนินนมสาว ท่ามกลางความมืดมิดอีกอย่างน้อย 1 คืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ชาวบ้านเสียสละ “ขุด 9 หลุมน้ำ” ท้ายถ้ำหลวงดักน้ำออกทางใต้ดิน
รู้จักโค้ชเอก “เอกพล” เขาไม่ใช่ฮีโร่ แต่เขาคือผู้รักษาชีวิตเด็กติดถ้ำ
ทีมอาสาสมัคร "นรินทร ณ บางช้าง" เสร็จภารกิจช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง
แผนใหม่ประเมิน "ทีมหมูป่า" ไม่พร้อม 100% ยอมเสี่ยงออกถ้ำหลวงหนีฝน
ภารกิจกู้ภัย-นำตัวทีมฟุตบอลหมูป่าออกจากถ้ำดำเนินการต่อ