วันนี้ (9 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ต.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ ระบุว่า ตามที่มีปรากฏภาพโดรนขึ้นบินถ่ายภาพ ขณะเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบกกำลังทำการบินลำเลียงทีมหมูป่าอะคาเดมีชุดแรกออกจากถ้ำหลวงไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ซึ่งผู้ทำการบินอ้างว่าได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศเรียบร้อยแล้ว
โดยกองทัพอากาศ ชี้แจงว่า กองทัพอากาศโดยศูนย์สนับสนุนทางอากาศโดยตรงที่ 3 ที่รับผิดชอบควบคุมการจราจรทางอากาศเหนือเขานางนอน และฝูงบิน 416 จ.เชียงราย ไม่ได้รับการประสานขออนุญาตนำโดรนขึ้นบินในห้วงเวลาดังกล่าวจากบุคคลที่กล่าวอ้างจึงประสานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการใช้โดรนของพลเรือน ดำเนินการสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
สั่งสอบสื่อดักฟัง จนท.สื่อสารภารกิจลำเลียงหมูป่า
ต่อมา เมื่อเวลา 14.45 น. นายณรงศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนจังหวัดเชียงราย หรือ ศอร. ได้แถลงความคืบหน้าปฏิบัติการลำเลียงทีมหมูป่าออกจากถ้ำวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีการสแกนความถี่การสื่อสารในภารกิจลำเลียงทีมหมูป่าแล้วนำข้อมูลออกมาเผยแพร่ภายในกลุ่มสื่อมวลชน ทำให้เกิดความสับสนว่าจะมีการลำเลียงทีมหมูป่าออกมาจากถ้ำหลวง 6 คน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบว่าผู้กระทำการดังกล่าว มีการดำเนินการอย่างไร
ส่วนปัญหาอีกเรื่อง คือ มีผู้นำโดรนขึ้นบินขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ นายณรงศักดิ์ชี้แจงว่า
การบินโดรนคือ การแทรกแซงกระบวนการทำงาน อาจทำให้เกิดความเสียหาย ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เรื่องนี้น่าเสียใจ ที่ขอความร่วมมือไปแต่ไม่ให้ความร่วมมือ แต่ก็เป็นส่วนน้อย โดยนักข่าวส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ด้าน พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า การบินโดรนไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจลำเลียงทีมหมูป่า การไลฟ์สดหรือถ่ายทอดไปควบคู่กับการปฏิบัติงานจริงก็เช่นกัน
ไม่ต้องถามว่าทำไมต้องห้าม ทำไมต้องขอร้อง การใช้โดรนแม้บินได้ไม่เกิน 90 เมตร แต่ที่ตรวจพบอยู่ในเส้นทางแนวการบิน จึงต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ ควรงด ไม่ใช่ได้รับอนุญาตตั้งแต่วันแรกแล้วจะบินตรงไหนก็ได้
ส่วนเรื่องการจูนความถี่ มีการใช้เทคนิควิธีพิเศษ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ หากใครเป็นผู้กระทำก็ขอให้เลิก ถ้าผิดกฎหมายชัดเจนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
พวกผมทำ เพื่อชีวิตน้องๆ ทั้งนั้น ไม่ได้ห้ามข่าวสารอะไร ที่ออกๆ ไปก็อยากให้ไปพร้อมกัน เอาข่าวจากส่วนกลาง ภาพส่วนกลาง ไม่ต้องมาแข่งกันว่าค่ายไหนเก่ง ค่ายไหนเร็ว ค่ายไหนทัน ค่ายไหนเลิศ ให้เลิก
เวิร์คพอยท์ขออภัยนำเสนอเสียงจากสัญญาณวิทยุสื่อสาร
โดยเมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟจเฟซบุ๊ก Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ขออภัยกรณีนำเสนอเสียงที่ได้มาจากสัญญาณวิทยุสื่อสารในรายการข่าว จากความผิดพลาดของทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ในการนำเสนอเสียงจากสัญญาณวิทยุสื่อสาร ในระหว่างภารกิจช่วยเหลือ 13 นักเตะ
เบื้องต้นขออธิบายและขออภัย 1. ประเด็นกฎหมาย เราได้สัญญาณจากวิทยุเครือข่ายเครื่องสีแดงของภาคประชาชน (เสียงของอาจารย์พลสิงห์ แสนสุข ประธานศูนย์พญาอินทรี) ถ่ายทอดผ่านแอพพลิเคชั่น Zello ที่ประชาชนเข้าถึงได้ปกติ
2. เราขอโทษที่รีบเผยแพร่เสียงนี้ จนเกิดความไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ ที่มีความละเอียดอ่อน ทั้งในเชิงการทำงานของเจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับ 13 นักเตะ เป็นความผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น หลังจากนี้จะเรียนรู้จากความผิดพลาดและปฏิบัติภารกิจนำเสนอข่าวและข้อมูลช่วยเหลือน้องๆ นักเตะทีมหมูป่าด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่ ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ขออภัยครับ
พีพีทีวีแถลงขออภัยบินโดรนขณะลำเลียงทีมหมูป่า
ขณะที่เมื่อเวลา 15.00 น. เพจเฟซบุ๊ก PPTV HD 36 เผยแพร่ข้อความระบุว่า พีพีทีวีขออภัยกรณีโดรนบินระหว่างลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศยาน กองบรรณาธิการข่าวพีพีทีวีขออภัยอย่างสูงต่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไป กรณีที่มีภาพอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ขึ้นบินในช่วงเวลาเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ในภารกิจลำเลียงผู้ประสบภัยถ้ำหลวงไปยังโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ทางกองบรรณาธิการฯ มิได้มีเจตนาฝ่าฝืนข้อพึงปฏิบัติในฐานะสื่อมวลชนที่ประจำการอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางกองบรรณาธิการฯ ขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และขออภัยอย่างสูงหากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้เกิดผลกระทบใดๆ และยืนยันว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าไปชี้แจงเกี่ยวกับการบินโดรนในช่วงเวลาเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ในภารกิจลำเลียงผู้ประสบภัยถ้ำหลวงไปยังโรงพยาบาล