วันนี้ (31 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยภาพชุดดาวอังคารมีขนาดปรากฏใหญ่ขึ้นและสว่างมากขึ้น พายุฝุ่นเริ่มเบาบางลง มองเห็นขั้วน้ำแข็งและพื้นผิวได้ชัดเจนขึ้นมาก
ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ระบุว่า สดร. เริ่มบันทึกภาพดาวอังคารตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อนำมาศึกษาเปรียบเทียบขนาดปรากฏและความสว่างในช่วงที่ดาวอังคารโคจรเข้าใกล้โลกเรื่อย ๆ ภาพชุดดังกล่าวนำภาพถ่ายดาวอังคารมาเรียงเปรียบเทียบให้เห็นขนาดปรากฏที่ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจนและปรากฏเต็มดวงมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงมีความสว่างปรากฏมากขึ้นด้วยเช่นกัน สามารถมองเห็นขั้วน้ำแข็งและพื้นผิวดาวอังคารได้ แต่เป็นที่น่าเสียดายในช่วงกลางเดือน มิ.ย.เกิดพายุฝุ่นขนาดใหญ่ปกคลุมพื้นผิวดาวอังคารเป็นบริเวณกว้าง จึงไม่สามารถเก็บรายละเอียดพื้นผิวดาวอังคารได้ชัดเจนเท่า 2 ปีก่อน
ภาพล่าสุดเป็นภาพดาวอังคารในคืนวันที่ 27 ก.ค.2561 ซึ่งโคจรมาอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ เห็นลักษณะพื้นผิวได้ชัดเจนขึ้นมากกว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากพายุฝุ่นเริ่มจางลง ภาพดาวอังคารทั้งหมดบันทึกโดยกล้องโทรทรรศน์ควบคุมระยะไกล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.7 เมตร ของสดร. ที่ติดตั้ง ณ หอดูดาวดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา
ดาวอังคารจะโคจรเข้าใกล้โลกเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าใกล้โลกที่สุดในวันนี้ ห่างเพียง 57.6 ล้านกิโลเมตร (ระยะห่างเฉลี่ยระหว่างโลกกับดาวอังคารประมาณ 225 ล้านกิโลเมตร) จึงเหมาะแก่การสังเกตการณ์ดาวอังคาร เพราะมีความสว่างและมีขนาดปรากฏใหญ่มาก มองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกจนถึงรุ่งเช้า
สำหรับที่ผ่านมา ดาวอังคารโคจรใกล้โลกมากที่สุด ในวันที่ วันที่ 14 เม.ย.2557 ระยะห่าง 92.39 และดาวอังคารได้โคจรเข้าใกล้โลกเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าใกล้โลกมากที่สุดอีกครั้งในวันที่ 31 พ.ค.2559 ที่ระยะห่าง 75.28 ล้านกิโลเมตร และในวันนี้ ดาวอังคารจะมีขนาดปรากฏใหญ่ที่สุดและสว่างที่สุดในรอบ 15 ปี
สดร.จึงมีการจัดสังเกตการณ์ “ดาวอังคารใกล้โลกที่สุดในรอบ 15 ปี” ชวนจับตา 31 ก.ค. ลุ้นฝน หากฟ้าใส เห็นชัดด้วยตาเปล่าทั่วไทย จัดสังเกตการณ์ 4 จุด ที่เชียงใหม่ โคราช ฉะเชิงเทรา สงขลา ส่องขั้วน้ำแข็งดาวเคราะห์แดงผ่านกล้องโทรทรรศน์ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น.
ทั้งนี้ ดาวอังคาร หรือ Mars เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่ 4 ในระบบสุริยะ จะโคจรมาใกล้โลก ทุกๆ ประมาณ 26 เดือน เป็นช่วงที่ดาวอังคารอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ (opposition : ตำแหน่งที่ดาวอังคาร โลก และดวงอาทิตย์ เรียงอยู่ในเส้นตรงเดียวกัน มีโลกอยู่ตรงกลาง) เราจึงเห็นดาวอังคารมีความสว่างมากกว่าช่วงใดๆ ในรอบปี ดาวอังคารจะส่องประกายเป็นสีส้มแดง เนื่องจากพื้นผิวของดาวอังคารมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นเหล็กออกไซด์ จึงมีฉายาว่า “ดาวเคราะห์สีแดง"