วันนี้ (2 ส.ค.2561) นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระ บี่ กล่าวว่า หลังจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ประกาศปิดอ่าวมาหยา ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบก และใต้ทะเลช่วงฤดูมรสุม 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-30 ก.ย.นี้
ในภาพรวมการฟื้นฟูเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยการวางแปลงปลูกปะการัง และปลูกป่าชายหาด โดยจะห้ามทำกิจกรรมการท่องเที่ยวบริเวณอ่าวมาหยาโดยเด็ดขาด แต่อนุญาตให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวนำเรือเข้ามาลอยลำนอกบริเวณแนวทุ่นไข่ปลาที่กั้นแนวเขตห้ามเข้าไว้ ซึ่งหลังจากนี้อีก 2 เดือนจะครบช่วงการปิดฟื้นฟูก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
เมื่อถามว่าการปิดอ่าวมาหยา กระทบต่อเงินรายได้หรือไม่ นายวรพจน์ ระบุว่า เนื่องจากการท่องเที่ยวท่องที่อ่าวมาหยา เกาะพีพี เป็นตัวรายได้หลักปกติเฉลี่ยนปกติวันละ 1 ล้านบาทจากนักท่องเที่ยวประ มาณ 3,000 คนต่อวัน การปิดจึงเท่ากับรายได้ค่าธรรมเนียมการจัดเก็บหายไปด้วย
แต่ยืนยันว่านโยบายของกรมอุทยานฯ ไม่ได้เน้นตัวเงินเป็นหลัก แต่ยึดเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ถึงแม้เงินรายได้จะหายไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลเปรียบเทียบเงินรายได้อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ของปี 2560-2561 เฉพาะช่วงเดือนก.ค. ยอดเงินรายได้ลดลงอย่างชัดเจน โดยก.ค.2560 จำนวน 61.3 ล้านบาท ส่วนเดือนก.ค.ปีนี้ เหลือเพียง 26.2 ล้านบาท หายไปประมาณ 35 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สาเหตุรายได้ที่หายไปส่วนหนึ่งมาจากการปิดอ่าวมาหยาและอ่าวโละซามะ ตั้งแต่ 1 มิ.ย.30 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ยังเกิดอุบัติเหตุเรือฟินิกซ์ล่มกลางทะเลภูเก็ต ประกอบการออกประกาศเตือนการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงมรสุมและคลื่นลมแรง ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
เปิดเแผน "มาหยาโมเดล" ฟื้นฟูธรรมชาติ 4 เดือน
อีก 4 เดือนห้ามจอดเรือหน้า “อ่าวมาหยา” แก้ปะการังพัง